ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) ว่ากลุ่ม BRICS ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ กำลังดำเนินการจัดตั้งทุนสำรองระหว่างประเทศใหม่บนพื้นฐานระบบตะกร้าเงินของประเทศสมาชิก ลดการพึ่งพิงระบบการเงินตะวันตก
"กำลังมีการดำเนินการในเรื่องการจัดตั้งทุนสำรองระหว่างประเทศ บนพื้นฐานระบบตะกร้าเงินของกลุ่มประเทศของเรา" เขากล่าวกับเวทีสัมมานาทางธุรกิจของกลุ่ม BRICS ในสัปดาห์นี้ ตามรายงานของอาร์ทีนิวส์ สื่อมวลชนรัสเซีย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังเผยว่ารัฐสมาชิกของ BRICS อยู่ระหว่างการพัฒนากลไกทางเลือกที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน
คำพูดล่าสุดของปูติน สอดคล้องกับคำแถลงของกลุ่ม BRICS ก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าพวกเขากำลังดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายการชำระเงินร่วม เพื่อลดการพึ่งพิงระบบการเงินของตะวันตก ขณะเดียวกัน บรรดาประเทศสมาชิก BRICS กำลังเพิ่มการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการซื้อขายระหว่างกัน
อีกด้านหนึ่งเว็บไซต์ Global Times ของทางการจีน รายงานว่า บรรดาผู้ค้าทั้งหลายในกลุ่ม BRICS ต่างมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะใช้เงินสกุลท้องถิ่นในกลุ่มประเทศของตนเอง โดยเฉพาะเงินหยวน เป็นอีกหนึ่งสกุลหลักในการเจรจาทำธุรกรรมทางการค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัน โดยเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามมองหาทางเลือกอื่นนอกจากสกุลเงินดอลลาร์ ที่จะนำมาใช้เป็นตัวกลางชำระหนี้ระหว่างประเทศภายในกลุ่ม BRICS
บรรดาผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแม้อิทธิพลของเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงครอบงำเวทีการค้าโลก แต่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในกลุ่มประเทศสมาชิก BRICS บวกกับความร่วมมือเพิ่มเติมด้านต่างๆ ในอนาคต ได้เพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่จะชำระหนี้ด้วยเงินสกุลเงินท้องถิ่นของแต่ละประเทศ
รายงานระบุว่า ประเด็นการชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่นจะเป็นหนึ่งในประเด็นหารือหลักในการประชุมซัมมิต BRICS ทางไกล ที่จีนเป็นเจ้าภาพในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) โดยความเป็นได้มากที่สุดขณะนี้คือเงินหยวนกับเงินรูเบิล หลังมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนกับรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น
ผู้จัดการของสหภาพนักอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการรัสเซีย-เอเชีย แห่งรัสเซีย กล่าวว่า มีผลิตภัณฑ์รัสเซียจำนวนมากที่เดิมทีมีไว้สำหรับตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แต่ขณะนี้กำลังเบนเข็มส่งออกไปยังจีนและอินเดียแทน อันเป็นผลพวงจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในวงกว้างที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อลงโทษรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน โดยผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักๆ ของรัสเซียคือน้ำมันและปุ๋ย
เขากล่าวต่อว่า สมาชิกส่วนใหญ่ใช้เงินหยวนในการชำระบัญชีการค้าข้ามพรมแดนแทนดอลลาร์สหรัฐ หรือสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากการชำระเงินหยวนทำได้เร็วกว่าและใช้ได้จริงมากกว่า จากแนวโน้มที่ว่านี้ทำให้มีบริษัทรัสเซียจำนวนมากขึ้นกำลังมองหาความเป็นไปได้ในการเปิดบัญชีที่สาขาของธนาคารจีนในกรุงมอสโก
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/Global Times)