ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส พลาดครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จากผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ (19 มิ.ย.) ซึ่งถือเป็นสัญญาณร้ายสำหรับผู้นำเมืองน้ำหอมที่เพิ่งกลับมารั้งเก้าอี้เทอม 2 หมาดๆ และอาจทำให้การเมืองฝรั่งเศสเข้าสู่ภาวะชะงักงันหากว่า มาครง ไม่สามารถเจรจาขอจับมือกับพรรคอื่นๆ ได้
จากผลการนับคะแนนที่ใกล้เสร็จสมบูรณ์ 100% พบว่า แม้กลุ่มพันธมิตรสายกลางอองซอมเบลอ (Ensemble) ของ มาครง ซึ่งชูนโยบายเพิ่มอายุเกษียณ และส่งเสริมการบูรณาการร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู) จะมีแนวโน้มได้ที่นั่ง ส.ส. มากที่สุด แต่ไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้อย่างเบ็ดเสร็จ
คาดการณ์ผลการเลือกตั้งโดยสถาบันโพล Ifop, OpinionWay, Elabe และ Ipsos ระบุว่า กลุ่มอองซอมเบลอของ มาครง จะได้ไประหว่าง 230-250 ที่นั่ง ซึ่งน้อยกว่าการครองเสียงข้างมากที่จะต้องมีอย่างน้อย 289 ที่นั่ง ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฝ่ายซ้าย NUPES จะได้ไป 141-175 ที่นั่ง และฝ่ายรีพับลิกันจะได้ราวๆ 60-75 ที่นั่ง
ขณะเดียวกัน พรรคอนุรักษนิยมขวาจัด National Rally ของ มารีน เลอเปน คาดว่าจะกวาดที่นั่ง ส.ส.ไปได้ระหว่าง 90-95 ที่นั่ง ซึ่งจะถือว่ามากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำได้ และเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการเมืองฝรั่งเศส
บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส ระบุว่า นี่คือผลการเลือกตั้งที่สั่นสะเทือนระบอบประชาธิปไตย และหากกลุ่มการเมืองอื่นไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วย “ก็อาจปิดกั้นศักยภาพของรัฐบาลในการที่จะผลักดันการปฏิรูป และปกป้องพลเมืองฝรั่งเศส”
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับภาวะ “สภาแขวน” ครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ซึ่งจำเป็นต้องมีการแบ่งปันอำนาจและประนีประนอมระหว่างกลุ่มขั้วการเมืองต่างๆ เพื่อให้การบริหารบ้านเมืองไปต่อได้
สำหรับเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสชนะเลือกตั้ง แต่กลับไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้นั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 1988 และแม้ในขณะนี้จะยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทิศทางไหน แต่หากรัฐบาลเจรจาขอความร่วมมือกับกลุ่มต่างๆ ไม่สำเร็จจนทำให้การขับเคลื่อนนโยบายนั้นยากลำบาก ก็มีความเป็นไปได้ที่ มาครง อาจจะตัดสินใจประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ (snap election)
มาครง เรียกร้องขออาณัติที่แข็งแกร่งจากชาวฝรั่งเศสท่ามกลางผลพวงจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนซึ่งทำให้โลกต้องเผชิญกับวิกฤตทั้งด้านพลังงานและอาหาร อีกทั้งยังกระพือปัญหาเงินเฟ้อที่กระทบต่อการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน
ที่มา : รอยเตอร์