มีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในช่วงปลายเดือนนี้ ส่วนหนึ่งในการเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อร่วมประชุมซัมมิตนาโต้ และจี7 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ ในขณะที่ราคาพลังงานที่พุ่งสูงในอเมริกา กำลังเหนี่ยวรั้งแนวโน้มทางการเมืองของพรรคเดโมแครต พรรคของเขา
การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย นั่นหมายความว่าแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ ไบเดน จะพบปะกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวโทษว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสังหารคอลัมนิสต์ชื่อดังรายหนึ่งที่พำนักอยู่ในสหรัฐฯ ในสถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อปี 2018
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้บอกเพียงว่าการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียนั้นมีความเป็นไปได้ แต่ไม่ยืนยันว่าจะมีการพบปะกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หรือไม่ ทั้งนี้บลูมเบิร์กระบุว่าแหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนาม เนื่องจากแผนการเดินทางของไบเดน ยังไม่ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้าย
คาดหมายว่าประธานาธิบดีรายนี้จะเข้าร่วมประชุมซัมมิตนาโต้ในมาดริด และประชุมซัมมิตจี 7 ในมิวนิก ในช่วงปลายเดือน
ในช่วงต้นๆ ของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของไบเดน ทำเนียบขาวเผยว่า ไบเดน จะติดต่อกับกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ เท่านั้น ในท่าทีปฏิเสธมกุฎราชกุมาร ซึ่งควบคุมเกือบทุกเสาหลักแห่งอำนาจในซาอุดีอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแรงกดดันที่หนักหน่วงขึ้น ไบเดน ดูอ่อนข้อยอมพบปะกับ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ในขณะที่ราคาเบนซินในสหรัฐฯ ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายต่อหลายรอบระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธเร่งยกระดับการส่งออกน้ำมัน แม้สหรัฐฯ โต้แย้งว่าอุปสงค์โลกสำหรับน้ำมันดิบฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดหมายไว้ หลังจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19
ไบเดน ขู่ตรวจสอบการโก่งราคาและสั่งปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในความพยายามฉุดราคาเบนซินหน้าปั๊มให้ลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม มันแทบไม่ส่งผลใดๆ
เหตุฆ่าหั่นศพ จามาล คาล็อกกี พลเมืองสหรัฐฯ และคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ ในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในอิสตันบูล ได้ก่อความเสียหายแก่ความสัมพันธ์ระหว่างริยาดกับรัฐบาลวอชิงตันอย่างรุนแรง ทั้งนี้ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง รัฐบาลของไบเดนเผยแพร่รายงานลับฉบับหนึ่ง ปักธงกล่าวโทษมกุฎราชกุมาร ต่อเหตุฆาตกรรมดังกล่าว
มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ยืนยันว่าทรงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ แต่ยอมรับว่าพระองค์มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุสังหาร ในฐานะผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)