ธนาคารกลางรัสเซียระบุในวันอังคาร (31 พ.ค.) ว่าบทบาทของดอลลาร์และยูโรในฐานะสกุลเงินระหว่างประเทศจะลดน้อยถอยลง เนื่องจากธนาคารกลางของชาติต่างๆ จะต้องทบทวนยุทธศาสตร์ หลังตะวันตกอายัดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย พร้อมกันนั้นยังบ่งชี้ด้วยว่าพวกเขาอาจพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยติดลบสำหรับเงินฝากที่เป็นดอลลาร์และยูโร
ในมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย หนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตะวันตกได้ทำการอายัดทองคำและทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดเกือบๆ 640,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงก่อนหน้าที่มอสโกจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ธนาคารกลางรัสเซียระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ตามด้วยการพูดคุยกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะยึดทรัพยสินที่อายัดไว้ กระตุ้นให้ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในเอเชียและตะวันออกกลาง ให้ต้องทบทวนยุทธศาสตร์ทุนสำรองของพวกเขา
"หนึ่งสิ่งที่คาดหมายได้ก็คืออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับทองคำ และบทบาทที่ลดลงของดอลลาร์และยูโร ในฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศ" ธนาคารกลางรัสเซียระบุในรายงานด้านเสถียรภาพทางการเงิน
จนถึงช่วงปลายปี 2021 ธนาคารกลางรัสเซียถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศในรูปแบบของทองคำ 131,500 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออีก 612,900 ล้านดอลลาร์ ถือครองในเงินตราต่างประเทศ แต่จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม ทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียลดลงเหลือ 583,400 ล้านดอลลาร์
"หนึ่งในผลลัพธ์ของการกำหนดข้อจำกัดคว่ำบาตรต่างๆ ต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ก็คือแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการใช้สกุลเงินทางเลือกแทนดอลลารและยูโร" ธนาคารกลางรัสเซียกล่าว โดยอ้างถึงสกุลเงินหยวนของจีนโดยเฉพาะ
เพื่อเร่งกระบวนการนี้ รัสเซียอาจพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยติดลบสำหรับเงินฝากที่เป็นดอลลาร์และยูโร ธนาคารกลางรัสเซียระบุ
อย่างไรก็ตาม เซเนีย ยูดาอีวา รองผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า การพูดคุยดังกล่าวเกี่ยวข้องเฉพาะกับบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศของลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับลูกค้ารายย่อย
ขณะเดียวกัน ยูดาอีวา บอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดให้พลเมืองชาวรัสเซียถอนเงินสดออกจากบัญชีสกุลเงินต่างประเทศของพวกเขาได้ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของการรุกรานยูเครน อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางรัสเซียไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะทบทวนมาตรการดังกล่าวในเดือนกันยายน "เราจะรอจนถึงเดือนกันยายน จากนั้นแล้วค่อยมาดูกัน" ยูดาอีวากล่าวกับผู้สื่อข่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)