ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) ระบุรู้สึกยินดีที่บริษัทต่างชาติบางแห่งถอนตัวจากรัสเซีย เพราะว่าธุรกิจท้องถิ่นจะได้เข้ามาแทนที่ และเย้ยตะวันตกว่ามอสโกยังคงมีหนทางในการเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยและสินค้าหรูทั้งหลาย พร้อมชี้ว่าในขณะที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้ว กำลังเผชิญวิกฤตอาหารและห่วงโซุอุปทาน รวมถึงเงินเฟ้อสูงลิ่ว เวลานี้ศูนย์กลางอำนาจเศรษฐกิจโลกได้เคลื่อนสู่เอเชียแล้ว
ปูติน ให้คำจำกัดความการรุกรานยูเครน ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์รัสเซีย เป็นการปฏิวัติของรัสเซียที่มีต่อสหรัฐฯ ชาติที่เขาระบุว่าลบหลู่รัสเซียมาตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มลายปี 1991
นอกเหนือจากความตายและความสยดสยองของสงคราม ความขัดแย้งและความพยายามของตะวันตกในการโดดเดี่ยวลงโทษรัสเซีย ได้กัดเซาะการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและโหมกระพือเงินเฟ้อ ท่ามกลางราคาธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร ปุ๋ยและพลังงานที่พุ่งสูง
นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น พวกนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่หลายแห่ง ไล่ตั้งบีพี ไปจนถึง แมคโดนัลด์ ได้ประกาศถอนตัวออกจากรัสเซีย ในขณะที่เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังเผชิญภาวะหดตัวครั้งเลวร้าย นับตั้งแต่ช่วงหลายขวบปีตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
"บางครั้งเมื่อคุณมองไปยังพวกที่ถอนตัวออกไป บางที ขอบคุณพระเจ้า เราจะยึดช่องว่างทางธุรกิจของพวกเขา สู่ธุรกิจของเรา การผลิตของเราที่เติบโตอยู่ก่อนแล้ว และมันจะนั่งอย่างปลอดภัยในสนามที่พันธมิตรของเราพร้อมอยู่ก่อนแล้ว" ปูติน กล่าว
ระหว่างการพูดคุยผ่านทางวิดีโอลิงก์กับพวกผู้นำของบรรดาประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ปูตินพูดเชิงเหน็บแนมว่าบรรดาสินค้าหรูอย่างเช่น รถเมอร์เซเดส ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของพวกหัวขโมยนั้น จะยังคงหาซื้อได้ในรัสเซีย แต่มันอาจะมีราคาแพงขึ้นสักหน่อย
"มันจะแพงขึ้นสักหน่อยสำหรับสินค้าเหล่านี้ แต่สำหรับคนที่ขับเมอร์เซเดส 600s อยู่แล้ว แต่ยังอยากได้เพิ่ม ผมรับประกันกับพวกคุณได้ว่า รถเหล่านี้จะถูกนำเข้ามา ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน จากประเทศไหนก็ตาม" ปูตินกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปูติน ยอมรับว่ารัสเซียยังมีความจำเป็นต้องเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ จากบรรดาชาติเศรษฐกิจพัฒนาแล้วทั้งหลาย "เราจะไม่กีดกันตัวเองออกจากสิ่งนี้ พวกเขาต้องการบีบเราออก ในโลกสมัยใหม่ เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้" กระนั้นก็ตามประธานาธิบดีรายนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ารัสเซียจะมีแนวทางไหนสำหรับคงการเข้าถึงส่วนประกอบและซอฟต์แวร์ของตะวันตก
ปูติน สัญญาว่าความพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียของตะวันตกจะประสบความล้มเหลว และบอกว่าบรรดาชาติเศรษฐกิจพัฒนาแล้วทั้งหลายกำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ห่วงโซ่อุปทานที่พังครืนและวิกฤตอาหาร ในขณะที่ศูนย์กลางอำนาจเศรษฐกิจโลกได้เคลื่อนเข้าสู่เอเชียแล้ว
แม้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกโหมกระพือเงินเฟ้อในรัสเซียเช่นกัน ท่ามกลางปัญหาห่วงโซุอุปทานหยุดชะงัก แต่ ปูติน ระบุว่าประเทศของเขากำลังรับมือได้ดีและรัสเซียกำลังปลีกตัวหนีจากตะวันตก หันหน้าเข้าหาจีน อินเดีย และมหาอำนาจอื่นๆ
"แน่นอน ตัวแทนทางธุรกิจของเราเผชิญปัญหา โดยเฉพาะในด้านห่วงโซ่อุปทานและการขนส่ง แต่กระนั้นทุกอย่างสามารถปรับตัวได้ ทุกอย่างสามารถสร้างได้ในหนทางใหม่" ปูตินกล่าว
ธนาคารกลางรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 11% และบอกว่าอาจมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกในปีนี้ หลังจากภาวะเงินเฟ้อชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และเศรษฐกิจผงกหัวขึ้นจากภาวะหดตัว
การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เข่นฆ่าผู้คนไปหลายพันชีวิต ประชาชนหลายล้านคนต้องโยกย้ายถิ่นฐาน และเพิ่มความกังวลว่าอาจเกิดการเผชิญหน้ารุนแรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ นับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962
ปูติน ระบุว่า สหรัฐฯ ใช้ยูเครนคุกคามรัสเซียผ่านการขยายอานาเขตของนาโต้ และมอสโกจำเป็นต้องปกป้องประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย ที่ถูกตามประหัตประหารในยูเครน
ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลเพื่อรุกรานประเทศอธิปไตยหนึ่งๆ
(ที่มา : รอยเตอร์)