สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานเมื่อวันเสาร์ (28 พ.ค.) ว่า มีเรือ 1 ลำถูกส่งเข้าไปยังเมืองท่ามาริอูโปล (Mariupol) ของยูเครนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กองทัพรัสเซียยึดเมืองนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อที่จะลำเลียงเหล็กหลายพันตันส่งกลับไปยังรัสเซีย ในความเคลื่อนไหวที่เจ้าหน้าที่เคียฟประณามว่าไม่ต่างกับการ “ปล้น”
โฆษกท่าเรือยืนยันกับสำนักข่าว TASS ว่า เรือลำนี้จะขนเหล็กน้ำหนักประมาณ 2,700 ตันจากมาริอูโปล มุ่งหน้าไปทางตะวันออกสู่เมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน (Rostov-on-Don) ของรัสเซียในวันจันทร์ (30) แต่ไม่ได้บอกว่าเหล็กเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นที่ไหน
ลุดมิลา เดนิโซวา เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเครน ชี้ว่าการขนเหล็กจากมาริอูโปลไปยังรัสเซียไม่ต่างอะไรกับการปล้น
"การปล้นทรัพย์สินบนดินแดนที่ถูกยึดครองชั่วคราวยังคงเกิดขึ้นอยู่" เธอกล่าวผ่านแอป Telegram
"หลังจากที่ปล้นข้าวสาลีของยูเครนแล้ว กองกำลังผู้ยึดครองยังเริ่มขนเอาผลิตภัณฑ์เหล็กของยูเครนออกไปจากมาริอูโปลด้วย"
วันศุกร์ที่แล้ว (27) บริษัท Metinvest ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของยูเครน ออกมาแสดงความกังวลว่ารัสเซียอาจใช้เรือสินค้าหลายลำซึ่งติดอยู่ที่ท่าเรือมาริอูโปลเพื่อขโมยหรือลักลอบขนผลิตภัณฑ์โลหะต่างๆ ของบริษัทออกไป พร้อมทั้งกล่าวหาว่ารัสเซียว่าทำตัวเหมือน “โจรสลัด”
ล่าสุด โฆษก Metinvest ยืนยันเมื่อวันเสาร์ (28) ว่า เหล็กที่กำลังจะถูกส่งไปยังรัสเซียนั้นเป็นทรัพย์สินของบริษัทจริงๆ
รัสเซียเข้าควบคุมมาริอูโปลได้อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทหารยูเครนกว่า 2,400 นายตัดสินใจยกธงขาว และอพยพออกมาจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย
การยึดมาริอูโปลช่วยให้รัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลอาซอฟได้ทั้งหมด และยังเปิดเส้นทางภาคพื้นดินเชื่อมต่อจากแผ่นดินใหญ่รัสเซียไปจนถึงแหลมไครเมียที่ยึดมาจากนูเครนเมื่อปี 2014
ที่มา : รอยเตอร์