ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นในวันพุธ (25 พ.ค.) จากภาวะอุปทานตึงตัว แม้โรงกลั่นต่างๆ ในสหรัฐฯ ยกระดับการกลั่นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มต้นขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำขยับลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผยแพร่รายงานการประชุมเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 110.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 114.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จากข้อมูลของรัฐบาลพบว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 1 ล้านบาร์เรล และคลังเบนซินสำรองลดลงเล็กน้อยเช่นกัน สวนทางกลับสต๊อกน้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ โรงกลั่นต่างๆ ได้ยกระดับการแปรรูป เพิ่มศักยภาพปฏิบัติการแตะระดับ 93.2% สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019
ช่วงวันหยุดยาว วันรำลึกถึงทหารและผู้เสียสละในสงคราม (Memorial Day) สุดสัปดาห์นี้ ในสหรัฐฯ คาดหมายว่าการเดินทางจะพลุกพล่านที่สุดในรอบ 2 ปี ดันอุปสงค์เชื้อเพลิงพุ่งสูง ในขณะที่บรรดาผู้ขับจะใช้รถใช้ถนนกันมากขึ้น เมินข้อจำกัดสกัดโควิด-19 และราคาน้ำมันพุ่งขึ้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (25 พ.ค.) ปิดบวก ได้แรงหนุนจากรายงาน minutes จากที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินหนล่าสุดของเฟด ที่เผยให้เห็นว่าบรรดาคณะกรรมการมีความรู้สึกอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าเศรษฐกิจอเมริกาแข็งแกร่งมาก และเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ก่อภาวะถดถอยใดๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 191.66 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,120.28 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 37.25 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,978.73 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 170.29 จุด (1.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,434.74 จุด
ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายผันผวนในช่วงต้น ท่ามกลางความกระวนกระวายใจที่มีต้นตอจากผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค ข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอเมริกาคลายความร้อนแรงลงแล้ว แต่กระนั้นเฟดยังคงเตรียมเคลื่อนไหวจัดการกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในรอบหลายทศวรรษ
มีความกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงเกินไปของเฟดอาจผลักเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดิ่งสู่ภาวะถดถอย ในขณะที่ปรากฏหลักฐานว่าภาวะเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดแล้วในเดือนมีนาคม
รายงานการประชุม minutes จากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งปิดฉากด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มากสุดในรอบ 22 ปี เผยให้เห็นว่าคณะกรมการคิดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก "ดูเหมือนจะมีความเหมาะสม" ในที่ประชุมเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่กำลังมาถึง
ส่วนราคาทองคำปิดลบหนักในวันพุธ (25 พ.ค.) ถือเป็นการขยับลงมากสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ถูกฉุดจากรายงานการประชุมเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 19.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,846.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)