สตาร์บัคส์ คอร์ป ในวันจันทร์ (23 พ.ค.) ประกาศว่าพวกเขาจะถอนตัวออกจากตลาดรัสเซีย หลังประกอบธุรกิจในประเทศแห่งนี้มานานเกือบ 15 ปี ในขณะที่เครือข่ายกาแฟดังระดับโลกแห่งนี้เดินตามรอย แมคโดนัลด์ ที่ประกาศถอนกิจการออกจากรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการที่มอสโกส่งทหารรุกรานยูเครน
สตาร์บัคส์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในซีแอตเทิล มีสาขาในรัสเซียมากกว่า 130 แห่ง บริหารงานโดยผู้ถือใบอนุญาต อัลชายา กรุ๊ป และมีพนักงานเกือบ 2,000 คน ในประเทศแห่งนี้
การตัดสินใจของสตาร์บัคส์ ที่จะค่อยๆ ยุติกิจการในรัสเซีย เป็นแนวทางที่ต่างออกไปจากบริษัทต่างชาติอื่นๆ บางแห่ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แมคโดนัลด์เปิดเผยว่าจะขายสาขา 850 แห่งที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 3 ทศวรรษตั้งแต่หลังสิ้นสุดสงครามเย็น แก่ อเล็กซานเดอร์ โกเวอร์ ผู้ถือใบอนุญาตท้องถิ่นรายเดิม เพื่อนำไปรีแบรนด์ภายใต้ชื่อใหม่ แต่จะยังคงเครื่องหมายการค้าไว้ ส่วน เรโนลต์ ของฝรั่งเศส กำลังขายหุ้นใหญ่ในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ภายใต้ออปชันสามารถซื้อหุ้นกลับได้
บริษัทตะวันตกหลายแห่ง ในนั้นรวมถึง อิมพีเรียล แบรนด์ส และเชลล์ กำลังตัดความสัมพันธ์กับตลาดรัสเซีย ด้วยการตกลงขายทรัพย์สินทั้งหลายของพวกเขาในประเทศแห่งนี้ หรือไม่ก็ส่งมอบมันแก่พวกผู้บริหารในระดับท้องถิ่น
ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม สตาร์บัคส์ได้ปิดสาขาต่างและระงับกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมดในรัสเซีย ในนั้นรวมถึงการส่งมอบสินค้าไปยังประเทศแห่งนี้ ตามหลังมอสโกรุกรานยูเครน
บริษัทแห่งนี้ซึ่งเปิดสาขาแรกในรัสเซียในปี 2017 ระบุว่า จะเดินหน้าให้การสนับสนุนพนักงานในรัสเซียต่อไป ในนั้นรวมถึงจ่ายค่าจ้างแก่พวกเขาเป็นเวลา 6 เดือน
สตาร์บัคส์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินจากการถอนตัวครั้งนี้ ในขณะที่แมคโดนัลด์คาดว่าจะมีหนี้สูญจากการขายกิจการครั้งนี้ราวๆ 1,200 ถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ที่มา : รอยเตอร์)
