รอยเตอร์ - แหล่งข่าวเผยเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตรวจสอบว่า เครื่องบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ที่ตกเมื่อปลายเดือนมีนาคม เป็นการจงใจของใครบางคนในห้องนักบินหรือไม่ เนื่องจากไม่พบหลักฐานการขัดข้องทางเทคนิค
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานเมื่อวันอังคาร (17 พ.ค.) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่รับรู้ข้อมูลการประเมินเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าข้อมูลการบินจากกล่องดำของเครื่องโบอิ้ง 737-800 บ่งชี้ว่า มีบางคนในห้องนักบินเจตนาทำให้เครื่องบินตก
ทางด้านโบอิ้ง และคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นทีเอสบี) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นและขอให้ไปสอบถามหน่วยงานของจีนแทน ขณะที่กรมการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (ซีเอเอซี) ซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวน ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เครื่องโบอิ้ง 737-800 ของไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ที่ออกจากเมืองคุนหมิงมุ่งหน้ากวางโจว ตกบนภูเขาในมณฑลกว่างซี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม หลังจากที่เครื่องดิ่งลงกะทันหันจากระดับความสูงเดินทาง ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 132 คนเสียชีวิตทั้งหมด และถือเป็นอุบัติเหตุทางการบินครั้งรุนแรงที่สุดในจีนในรอบ 28 ปี
เจ้าหน้าที่ระบุว่า นักบินไม่ตอบเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ติดต่อไปหลายครั้ง รวมถึงเครื่องบินที่บินอยู่ใกล้เคียงระหว่างที่เครื่องดิ่งลงอย่างรวดเร็ว แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตรวจสอบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำ “โดยสมัครใจ” หรือไม่
ภาพหน้าจอรายงานข่าวชิ้นนี้ของวอลล์สตรีท เจอร์นัลดูเหมือนถูกเซ็นเซอร์ทั้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเว่ยป๋อ และแอปรับส่งข้อความวีแชตเมื่อวันพุธ (18 พ.ค.) นอกจากนั้น แฮชแท็ก “ไชน่า อีสเทิร์น” และ “กล่องดำไชน่า อีสเทิร์น” ยังถูกแบนบนเว่ยป๋อที่อ้างว่า เป็นการละเมิดกฎหมาย และผู้ใช้ไม่สามารถแชร์โพสต์เหตุการณ์นี้ในวีแชต
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ซีเอเอซีแถลงตอบโต้ข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตเรื่องการเจตนาบังคับให้เครื่องบินตกว่า เป็นการคาดการณ์ที่ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง และรบกวนการสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าว
ไชน่า อีสเทิร์นปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น และวอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า สายการบินแห่งนี้ระบุในแถลงการณ์ว่า ไม่มีหลักฐานที่สามารถระบุได้ว่า เครื่องบินมีปัญหาหรือไม่
เครื่อง 737-800 มีการใช้อย่างกว้างขวางและเป็นรุ่นก่อนโบอิ้ง 737 แม็กซ์ รวมทั้งไม่มีระบบที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุร้ายแรงของ 737 แม็กซ์ในปี 2018-2019 ที่ทำให้ต้องระงับใช้เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเวลานาน
หลังเหตุเครื่องบินตกปลายเดือนมีนาคม ไชน่า อีสเทิร์นสั่งระงับใช้เครื่อง 737-800 และอนุญาตให้ขึ้นบินอีกครั้งกลางเดือนเมษายน หลังจากพิจารณาเห็นว่า ไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยใหม่เฉพาะหน้าสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีการใช้งานมากที่สุดของโบอิ้ง
ในรายงานสรุปการสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินตกขั้นต้นเมื่อเดือนที่แล้วที่ยังไม่มีการเผยแพร่ เจ้าหน้าที่สอบสวนจีนไม่ได้ระบุว่า มีข้อเสนอแนะทางเทคนิคสำหรับ 737-800 ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 1997 ด้วยสถิติความปลอดภัยที่ดี
ขณะเดียวกัน เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี ประธานเอ็นทีเอสบี ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนของเอ็นทีเอสบีและโบอิ้งเดินทางไปจีนเพื่อให้ความช่วยเหลือในการสอบสวน ซึ่งไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยที่จำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เอ็นทีเอสบีช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สอบสวนจีนด้วยการตรวจสอบกล่องดำในห้องปฏิบัติการในวอชิงตัน ด้านเจ้าหน้าที่จีนเผยว่า รายงานขั้นสุดท้ายอาจใช้เวลาจัดทำ 2 ปีหรือนานกว่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า อุบัติเหตุเครื่องบินตกส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ผสมกับปัจจัยทางเทคนิค ส่วนการเจตนาทำเครื่องบินตกนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตสมมติฐานปลายเปิดล่าสุดว่า เป็นการกระทำของนักบินเพียงคนเดียว หรือเป็นผลจากการต่อสู้หรือการบุกรุก อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวย้ำว่า ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน อุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินเสียหายระหว่างที่เครื่องบินตก และไม่ชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่จะสามารถกู้ข้อมูลออกมาได้หรือไม่