ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนบวกตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (17 พ.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะเดียวกัน ตลาดยังซึมซับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งสนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,826.82 จุด เพิ่มขึ้น 167.07 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,674.23 จุด เพิ่มขึ้น 71.71 จุด หรือ +0.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,095.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด หรือ +0.07%
นักลงทุนขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 8.2% โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือน เม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือน มี.ค. ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในงานสัมมนา Future of Everything Festival ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่า ตัวเขานั้นจะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าราคาสินค้าจะลดลงสู่ระดับที่ดีต่อเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน พ.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ
สำหรับข้อมลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานไปแล้ว สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 หดตัวลง 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และราคานำเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้นยังได้เพิ่มแรงกดดันต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน