xs
xsm
sm
md
lg

ผลโพลสุดอึ้ง! อเมริกันชนเฉยๆ หากยูเครนแพ้สงคราม มองคว่ำบาตรรัสเซีย 'เล่นเองเจ็บเอง'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผลสำรวจของเว็บไซต์ข่าวExpress.co.uk แห่งสหราชอาณาจักร พบอเมริกันชน 53% เชื่อว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ มากกว่า เมื่อราคาเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่พุ่งทะยาน ในขณะที่ชาวอเมริกันสูญเสียความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของ โจ ไบเดน และ 43% บอกว่าไม่รู้สึกอะไร หากว่ายูเครนพ่ายแพ้ในสงครามต่อรัสเซีย

ในผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของสถาบันประชาธิปไตย/Express.co.uk พบว่า มี 43% ที่บอกว่า "โอเค" หากยูเครนพ่ายแพ้สงคราม ส่วนที่บอกว่า "ไม่โอเค" มี 41% ในขณะที่อีก 16% ไม่มีความเห็น

ตัวเลขของผลสำรวจที่ปรากฏออกมา มีขึ้นแม้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน พยายามรวบรวมแรงสนับสนุนจากทั่วโลกตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย อย่างไรก็ตามทางสถาบันประชาธิปไตยชี้ว่าสาเหตุของเรื่องนี้ก็คือความไม่พอใจต่อนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งมีต้นตอจากข้อเท็จจริงที่ว่า "ประชาชนชาวอเมริกามากกว่าครึ่งรู้สึกว่าตนเองถูกหลอกหลวงเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19"

ในอีกสถานการณ์หนึ่งที่น่ากังวล ดูเหมือนอเมริกันชนกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นต่อมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ด้วย 53% เชื่อว่ามันส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ มากกว่ามอสโกเอง และวิกฤตค่าครองชีพกลายป็นประเด็นทางการเมืองในลำดับต้นๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รัฐบาลไบเดน พยายามกล่าวโทษรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ต่อค่าครองชีพที่พุ่งสูงภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าค่าครองชีพในสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว ก่อนที่รัสเซียจะส่งทหารบุกยูเครนเสียอีก ดังนั้น ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจึงชี้นิ้วกล่าวโทษไปที่ ไบเดน ต่อความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ

อีกหนึ่งหัวข้อการสำรวจที่อาจเป็นอีกหนึ่งความเสียหายของพรรคเดโมแครต และประธานาธิบดีไบเดน คือบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงพากันแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าพวกเขามีเจตนาสนับสนุนพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพฤศจิกายน ด้วยคะแนน 50% ต่อ 42%

ไบเดน มีผลโพลออกมาในแง่ลบในทุกขอบเขตทางการเมือง และหนึ่งในขอบเขตที่เลวร้ายที่สุดก็คือในด้านนโยบายต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามที่แสดงความพึงพอใจเพียงแค่ 40% และมีถึง 56% ที่ไม่พอใจนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีรายนี้

คะแนนนิยมด้านนโยบายต่างประเทศที่ตกต่ำ มีขึ้นตามหลังแนวทางบริการจัดการอันเลวร้ายต่อกรณีถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานเมื่อปี 2021 แต่ดูเหมือนว่านโยบายรัสเซียและยูเครน ก็สั่นคลอนความเชื่อมั่นที่มีต่อตัวเขาด้วยเช่นกัน

จากข้อเท็จจริงพบว่าเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวสหรัฐฯ เชื่อว่ามันจะดีกว่าหาก ไบเดน ลงจากตำแหน่งเมื่อเทียบกับ ปูติน โดย 53% มองว่า ไบเดน ควรเป็นลงจากเก้าอี้ ส่วนที่ต้องการให้ ปูติน สละอำนาจมีอยู่ 44%

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนข้อมูลอีกอันที่พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 38% ที่พึงพอใจกับแนวทางรับมือวิกฤตยูเครนของไบเดน ส่วนที่ไม่พึงพอใจมีมากถึง 52%

นอกจากนี้ ชาวอเมริกายังมองรัสเซียเป็นเพียงภัยคุกคามลำดับ 4 เท่านั้น ที่ 16% เป็นรองอันดับ 1 จีน (42%) อันดับ 2 อิหร่าน (20%) และอันดับ 3 เกาหลีเหนือ (18%)

การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่านโยบายต่างประเทศจะไม่ช่วยปกป้องเก้าอี้ประธานาธิบดีของไบเดน และเวลานี้มีถึง 63% ที่เชื่อว่าเขาคงไม่ได้รับเลือกกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในศึกเลือกตั้งปี 2024

แพทริค บาแชม ผู้อำนายการสถาบันประชาธิปไตย อธิบายระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Express.co.uk ว่า เขาเชื่อว่านโยบายโควิด-19 และความล้มเหลวของล็อกดาวน์ ประกอบกับวิกฤตค่าครองชีพ ส่งผลกระทบต่อมุมมองของชาวสหรัฐฯ ต่อวิกฤตยูเครน

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอเมริกาชนส่วนใหญ่ต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย พวกเขาไม่ชอบรัสเซีย พวกเขาไม่ชอบปูติน แต่พวกเขาสะท้อนมุมมองแบบถากถางกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ ในทีแรกชาวอเมริกันสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรอย่างมาก แต่เวลานี้พวกเขาไม่รู้สึกกระตือรือร้นกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างที่เคยเป็น"

(ที่มา : เอ็กซ์เพรส/อาร์ทีนิวส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น