ยูเครนเปิดเผยในวันอังคาร (10 พ.ค.) ว่าจะระงับการจ่ายก๊าซผ่านจุดส่งออกหนึ่ง ซึ่งว่ากันว่ามีสัดส่วนคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของก๊าซทั้งหมดที่รัสเซียจ่ายป้อนทางท่อลำเลียงสู่ยุโรปโดยผ่านยูเครน พร้อมกล่าวโทษมอสโกต่อความเคลื่อนไหวครั้งนี้
GTSOU บริษัทผู้บริหารระบบก๊าซธรรมชาติของยูเครน เปิดเผยว่า พวกเขาจะระงับกระแสก๊าซที่จ่ายผ่านเส้นทาง Sokhranivka ตั้งแต่วันพุธ (11 พ.ค.) เป็นต้นไป หลังประกาศเหตุสุดวิสัย เงื่อนไขที่ประกาศใช้ในตอนที่การดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบจากบางอย่างที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุม
บริษัทระบุในถ้อยแถลงว่าสถานีเพิ่มความดันก๊าซธรรมชาติโนวอปสคอฟ ไม่สามารถปฏิบัติการได้ สืบเนื่องจาก "การแทรกแซงของกองกำลังผู้รุกรานในกระบวนการทางเทคนิค" พร้อมระบุว่า พวกเขาอาจเปลี่ยนกระแสก๊าซที่ได้รับผลกระทบชั่วคราวไปยัง Sudzha จุดเชื่อมต่อโครงข่ายก๊าซที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน
อย่างไรก็ตาม ทางก๊าซพรอม บริษัทผู้ผูกขาดการส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียผ่านท่อลำเลียง ระบุว่ามัน "เป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค" ที่จะเบี่ยงปริมาณก๊าซทั้งหมดไปยังจุดเชื่อมต่อโครงข่าย Sudzha ตามข้อเสนอของ GTSOU
ยูเครนยังคงเป็นเส้นทางลำเลียงหลักก๊าซธรรมชาติรัสเซียที่มุ่งหน้าสู่ยุโรป แม้กระทั่งหลังกรณีรัสเซียยกทัพรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
สถานีเพิ่มความดันก๊าซธรรมชาติโนวอปสคอฟ ในแคว้นลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน เคยถูกกองกำลังรัสเซียและพวกนักรบแบ่งแยกดินแดนบุกยึดไม่นานหลังมอสโกเปิดฉากสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร"
ทาง GTSOU เผยว่า โนวอปสคอฟ คือสถานีเพิ่มความดันก๊าซธรรมชาติแห่งแรกในระบบขนส่งก๊าซธรรมชาติของยูเครนในแคว้นลูฮันสก์ เส้นทางที่ลำเลียงก๊าซธรรมชาติราว 32.6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของก๊าซธรรมชาติรัสเซียที่ป้อนผ่านท่อลำเลียงสู่ยุโรปโดยผ่านยูเครน
GTSOU ระบุว่าเพื่อทำตามพันธสัญญาของพวกเขาต่อการลำเลียงก๊าซธรรมชาติสู่พันธมิตรยุโรปอย่างครบถ้วน ทางบริษัทจะถ่ายโอนก๊าซธรรมชาติไปยังจุดเชื่อมต่อโครงข่ายในดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน
ก๊าซพรอม เผยว่าได้รับแจ้งจากยูเครนว่าทางยูเครนจะหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติสู่ยุโรปผ่านจุดเชื่อมต่อ Sokhranivka ตอน 7.00 น. ของวันพุธ (11 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
บริษัทรัสเซียแห่งนี้ระบุว่า ไม่พบเห็นข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าเหตุสุดวิสัยหรืออุปสรรคขัดขวางปฏิบัติการตามคำกล่าวอ้างนั้นยังคงมีอยู่ และยืนยันว่าพวกเขาจะทำตามทุกพันธสัญญาที่มีต่อบรรดาผู้ซื้อก๊าซในยุโรป
เหตุการณ์นี้มีขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ขอประเทศต่างๆ ให้ลดการพึ่งพิงพลังงานรัสเซีย และแบนนำเข้าน้ำมันและพลังงานอื่นๆ ตอบโต้กรณีรัสเซียรุกรานยูเครน
เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้อยแถลงในวันอังคาร (10 พ.ค.) ไม่ได้เปลี่ยนแปลงกรอบเวลาที่โลกจะพึ่งพิงน้ำมันรัสเซียน้อยลง "อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พร้อมระบุว่าวอชิงตันกำลังติดต่อประสานงานใกล้ชิดกับบรรดาพันธมิตรทั่วโลกเพื่อเพิ่มอุปทานพลังงาน
(ที่มา : รอยเตอร์)