เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีศรีลังกา มหินทรา ราชปักษา ถูกตำรวจศรีลังกาสามารถช่วยออกมาจากที่พักในกรุงโคลัมโบได้ทันในช่วงก่อนเช้ามืดวันนี้ (10 พ.ค.) หลังข้ามคืนที่ผ่านมา ประชาชนบุกเผาบ้านนายกฯ และนักการเมืองแดนสิงหลจำนวนหนึ่ง เกิดขึ้น 1 วัน หลังราชปักษายอมลาออกจากตำแหน่งเซ่นเหตุบริหารผิดพลาดจนทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรง สหประชาชาติออกแถลงกา่รณ์ประณามการปะทะเลือด เรียกร้องเจ้าหน้าที่ป้องกันเกิดความไม่สงบในอนาคต
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (10 พ.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีศรีลังกา มหินทรา ราชปักษา ((Mahinda Rajapaksa) ในวันจันทร์ (9) ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังในช่วงสุดสัปดาห์เขาประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินเพิ่มอำนาจกองทัพศรีลังกาสามารถจับกุมได้หลังการประท้วงเรียกร้องกดดันให้เขาลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
CNN กล่าวว่า การประท้วงใหญ่เปิดฉากมาตั้งแต่เดือนมีนาคม จากการที่โคลัมโบสั่งตัดกระแสไฟฟ้า 13 ชั่วโมงต่อวัน ปิดไฟตามท้องถนนและไม่มีน้ำมันจำหน่ายที่ปั๊ม สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างสาหัส
ซึ่งรัฐบาลโคลัมโบได้การประกาศใช้เคอร์ฟิวหลังการปะทะเกิดขึ้นทั่วประเทศระหว่างผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนพรรครัฐบาลราชปักษาและฝ่ายต่อต้านที่กรุงโคลัมโบ ตำรวจศรีลังกาแถลงในวันจันทร์ (9) ข้อจำกัดถูกประกาศใช้ไม่นานก่อนราชปักษาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เดอะการ์เดียนรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงศรีลังกาเมื่อช่วงข้ามคืนบุกเผาบ้านราชปักษารวมถึงบ้านสมาชิกรัฐสภาศรีลังกาอีกจำนวนหนึ่ง หลังการลาออกจากตำแหน่งยังไม่ทำให้ประชาชนศรีลังกาสงบลงได้ กลุ่มผู้ประท้วงสามารถฝ่าไปจนถึงบ้านพักของราชปักษา Temple Trees ในกรุงโคลัมโบที่อดีตนายกฯ และภรรยาหลบอยู่ด้านใน
ในรายงานภาพข่าวรอยเตอร์พบว่า บ้านรัฐมนตรี ซานาธ นิชานธา (Sanath Nishantha) ในรัฐบาลราชปักษาถูกเผาจนวอดทั้งหลัง
อ้างอิงจากบีบีซี สื่ออังกฤษ ผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปถึงข้างในบ้านพักราชปักษา ซึ่งนอกจากตัวอดีตผู้นำและภรรยาแล้วพบว่ายังมีกลุ่มคนที่จงรักภักดีเขาส่วนหนึ่งหลบอยู่ภายในบ้านพัก ผู้ประท้วงจุดไฟเผารถบัสที่ด้านนอก ตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเตือนและยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มก่อจลาจล
เดอะการ์เดียนรายงานว่า กองกำลังศรีลังกาออกปฏิบัติการพิเศษก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อตรงเข้าช่วยราชปักษาและครอบครัวออกไปอยู่ในสถานที่ไม่เปิดเผย
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงศรีลังการะบุว่า “หลังปฏิบัติการก่อนตะวันขึ้น อดีตนายกฯ และครอบครัวของเขาถูกอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยกองทัพ”
และเสริมต่อว่า “มีระเบิดเพลิงไม่ต่ำกว่า 10 ลูกถูกโยนเข้าไปด้านในบ้านพัก”
ทั้งนี้ พบว่าอดีตนายกรัฐมนตรี มหินทรา ราชปักษา ถูกนำตัวไปยังในสถานที่ไม่เปิดเผย 1 วันหลังการประท้วงเลือดเกิดขึ้นโดยมีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บเกือบ 200 คนในการประท้วงวันจันทร์ (10)
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลโคลัมโบยังคงเกิดขึ้นในวันนี้ (10) พบมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวรวมตัวกันที่ถนนสายต่างๆ ในเมืองหลวง และตะโกนสโลแกนต่อต้านที่ด้านนอกสำนักงานประธานาธิบดีศรีลังกา โกตาบายา ราชปักษา
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้ประท้วงโกรธแค้นต่อการบริหารงานอย่างผิดพลาดครั้งร้ายแรงจนทำให้ประเทศเกิดวิฤตทางเศรษฐกิจและถึงขั้นล้มละลาย
ทั้งนี้ มีการรายงานระบุว่ามี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นที่พบว่านักการเมืองจากพรรครัฐบาลโคลัมโบเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 5 ราย
กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวอยู่ที่สนามบินต่างๆ และตั้งด่านตรวจเพื่อทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีนักการเมืองจากพรรคฝ่ายรัฐบาลสามารถแอบขึ้นเครื่องบินหนีออกนอกประเทศไปได้ นามาล ราชปักษา (Namal Rajapaksa) บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรีราชปักษา กล่าวว่า ครอบครัวของเขาไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี โกตาบายา ราชปักษา (Gotabaya Rajapaksa) ที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งออกมาเรียกร้องให้ประชาชนศรีลังกาอยู่ในความสงบและหยุดความรุนแรง หยุดการล้างแค้นต่อประชาชนคนอื่น และหยุดการไม่ให้เกียรตินักการเมือง
“ทุกความพยายามจะเกิดขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมืองผ่านประชามติในฉันทมติทางรัฐธรรมนูญ และเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ” รายงานจากแถลงการณ์ประธานาธิบดีศรีลังกาผ่านทางทวิตเตอร์
ด้านข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ (OHCHR) มิเชล บาเชเลต์ (Michelle Bachelet) ออกมาเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ให้ป้องกันการเกิดความไม่สงบครั้งในอนาคต
“ดิฉันรู้สึกรบกวนอย่างหนักต่อการยกระดับความรุนแรงในศรีลังกาหลังกลุ่มผู้สนับสนุนของนายกรัฐมนตรีเข้าโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงอย่างสันติในกรุงโคลัมโบวานนี้วันที่ 9 พ.ค. และผลที่ตามมาเกิดความรุนแรงของม็อบต่อสมาชิกของพรรครัฐบาล” รายงานจากแถลงการณ์ของบาเชเลต์ที่ออกมาในวันอังคาร (10)