ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะพูดคุยทางไกลกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ในวันจันทร์ (11 เม.ย.) จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว ในช่วงเวลาที่อเมริกาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการเห็นอินเดียยกระดับการนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย
เจน ซากิ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) "ประธานาธิบดีไบเดนจะเดินหน้าปรึกษาหารือใกล้ชิดเกี่ยวกับผลสืบเนื่องจากสงครามอันโหดร้ายของรัสเซียกับยูเครน และบรรเทาผลกระทบของมันที่บั่นทอนเสถียรภาพอุปทานอาหารโลก และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์"
ดาลีป ซิงห์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งเพิ่งเดินทางเยือนอินเดียเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวว่าอเมริกาจะไม่ "ขีดเส้ยตาย" ใดๆ สำหรับอินเดีย ต่อการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย แต่ไม่ต้องการเห็นอินเดียเร่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากขึ้น
หลังจากถูกล่อใจด้วยราคาลดกระหน่ำ อินเดียซื้อน้ำมันดิบรัสเซียแล้วอย่างน้อย 13 ล้านบาร์เรล นับตั้งแต่มอสโกรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เมื่อปีที่แล้วตลอดทั้งปี อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพียงราวๆ 16 ล้านบาร์เรล
การพบปะหารือครั้งนี้จะเริ่มต้นด้วย "การประชุมระดับรัฐมนตรี 2+2 สหรัฐฯ-อินเดีย" ระหว่างแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กับสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีกิจการต่างประเทศของอินเดีย และ รัชนาถ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
ไบเดน ซึ่งพูดคุยกับ โมดี ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม เร็วๆ นี้เคยบอกว่ามีเพียงอินเดีย ชาติเดียวในกลุ่ม Quad ที่มีจุดยืนสั่นคลอนในการดำเนินการกับรัสเซีย ต่อกรณีรุกรานยูเครน
อินเดียพยายามสร้างสมดุลในความสัมพันธ์กับรัสเซียและตะวันตก แต่ต่างจากสมาชิกอื่นๆ ของ Quad ประกอบด้วย สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย อินเดียไม่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย
รัสเซียคือผู้จัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมรายใหญ่ที่สุดของอินเดียมาช้านาน แม้อินเดียเพิ่มการสั่งซื้อจากสหรัฐฯมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมมองว่า อุปทานอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียมีราคาที่น่าดึงดูดใจมากกว่า และมีความสำคัญกับอินเดีย ในขณะที่นิวเดลีต้องเผชิญหน้ากับกองทัพจีน ที่มีแสนยานุภาพเหนือกว่า
ครั้งที่ ดาลีป ซิงห์ เดินทางเยือนอินเดีย เขาบอกว่าสหรัฐฯ พร้อมให้ความช่วยเหลืออินเดีย ด้านความหลากหลายทางพลังงานและอุปทานกลาโหม ในขณะที่อินเดีย คือชาติผู้นำเข้าและบริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก
ดาลีป ซิงห์ เตือนด้วยว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการเห็นพันธมิตรช่วยกอบกู้รูเบิล ซึ่งเคยดำดิ่งทันทีหลังสงครามเริ่มต้นขึ้น แต่ฟื้นตัวกลับมาแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ยูเครน เปิดเผยในวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) ว่ากำลังขอให้สหภาพยุโรปกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานมอสโก และร้องขอความช่วยเหลือด้านการทหารมากขึ้นจากพันธมิตร ในขณะที่พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย ในภาคตะวันออกของประเทศ
รัสเซีย ล้มเหลวไม่สามารถยึดเมืองหลักๆ ได้เลยนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ยูเครนบอกว่ารัสเซียกำลังระดมกำลังในภาคตะวันออกสำหรับโจมตีครั้งใหญ่ และเร่งเร้าประชาชนอพยพหลบหนีออกมา
มอสโก ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของยูเครนและตะวันตก ที่กล่าวหาพวกเขาก่ออาชญากรรมสงคราม และยืนกรานว่าไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือน ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารเพื่อปลดอาวุธและทำลายความเป็นนาซีในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทางยูเครน และตะวันตกระบุว่ามันเป็นคำกล่าวอ้างทำสงครามที่ไร้เหตุผล
นอกจากประเด็นยูเครนแล้ว ซากิ บอกต่อว่า ไบเดน และโมดี จะหารือความร่วมมือในประเด็นอื่นต่างๆ ในนั้นรวมถึงโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ตอบโต้วิกฤตโลกร้อน เสริมความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจโลก และยึดมั่นในระเบียบโลกบนพื้นฐานของกฎระเบียบที่เสรีและเปิดกว้าง เพื่อส่งเสริมความมั่นคง ประชาธิปไตยและความรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
(ที่มา : รอยเตอร์)