สหภาพยุโรปในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) เผยว่าเห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรห้ามนำเข้าถ่านหินของรัสเซีย และปิดท่าเรือต่างๆ ของกลุ่มไม่ต้อนรับเรือรัสเซีย ลงโทษต่อกรณีรุกรานยูเครน
เจ้าหน้าที่จากคณะมนตรียุโรป ซึ่งมีฝรั่งเศสเป็นประธาน กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นหัวหอกของมาตรการคว่ำบาตรรอบ 5 ซึ่งเป็น "รูปธรรมอย่างมาก" ที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย
แพกเกจดังกล่าวยังรวมไปถึงการแบนส่งออกไปยังรัสเซีย มูลค่า 10,000 ล้านยูโร ในนั้นรวมถึงสินค้าไฮเทคทั้งหลาย และอายัดทรัพย์สินของธนาคารหลายแห่งของรัสเซีย
นอกจากเหนือจากมาตรการคว่ำบาตรแล้ว อียูยังได้เห็นชอบสนับสนุนข้อเสนอหนึ่งสำหรับเพิ่มงบประมาณในการจัดหาอาวุธมอบแก่ยูเครน อีก 500 ล้านยูโร ส่งผลให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 1,500 ล้านยูโร
ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ระบุบนทวิตเตอร์แพกเกจนี้จะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว
มาตรการทางการเงินรอบใหม่ที่เสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรป มีขึ้นตามหลังเหตุการณ์พบร่างไร้วิญญาณของพลเมืองหลายสิบศพ ในเมืองบูชา ใกล้กับกรุงเคียฟ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ถือเป็นครั้งแรกที่ยุโรปเล็งเป้าหมายงานภาคพลังงานของรัสเซีย ซึ่งพวกเขาต้องพึ่งพิงอย่างมาก ทั้งนี้ประเทศต่างๆ ของอียูนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย มีสัดส่วนมากถึง 45% จากปริมาณการนำเข้าทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านยูโรในแต่ละปี
มาตรการห้ามนำเข้าถ่านหินนี้จะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม หรือ 120 วันหลังจากเผยแพร่แพกเกจคว่ำบาตรรอบใหม่ในวารสารอย่างเป็นทางการของสหภาพยุโรป ซึ่งคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ (8 เม.ย.)
รายชื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของรัสเซียที่ถูกแบนจากอียู ยังถูกขยายครอบคลุมถึงอุปกรณ์และวัตถุดิบสำคัญบางอย่าง มูลค่าราว 5,500 ล้านยูโรต่อปี เพื่อสกัดเงินทุนที่ใช้สนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน
ฝรั่งเศส ในฐานะประธานคณะมนตรียุโรประบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เวลานี้ผู้ขนส่งสินค้าสัญชาติรัสเซีย และเบลารุสจะถูกแบนจากการดำเนินงานในอียู
นอกจากนี้ อียูกำลังเพิ่มเติมรายชื่อองค์กรและบุคคลต่างๆ ที่อยู่ในบัญชีดำคว่ำบาตรของพวกเขาอีกมากกว่า 200 รายชื่อ ในนั้นรวมถึงเหล่าผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองและทางธุรกิจของรัสเซีย และลูกสาว 2 คนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
(ที่มา : เอเอฟพี)