ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมากล่าวหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่า “ก่ออาชญากรรมสงคราม” ในยูเครน พร้อมเรียกร้องให้มีการไต่สวน ท่ามกลางเสียงประณามจากทั่วโลกกรณีการสังหารหมู่พลเรือนที่เมืองบูชา (Bucha) ซึ่งมีภาพหลักฐานต่างๆ ถูกเผยแพร่ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ไบเดน ให้สัมภาษณ์สื่อที่วอชิงตันวานนี้ (4 เม.ย.) ว่า “พวกคุณก็ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่บูชาแล้ว นี่คือหลักฐานรับรอง และเขา (ปูติน) คืออาชญากรสงคราม”
การค้นพบหลุมฝังศพหมู่และร่างพลเรือนที่ถูกมัดและถูกยิงทิ้งในระยะเผาขนที่บูชา ซึ่งเป็นเมืองที่กองกำลังยูเครนยึดคืนมาจากรัสเซียได้ ดูเหมือนจะเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้สหรัฐฯ และยุโรปยิ่งมีเหตุผลที่จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรมอสโกให้หนักหน่วงขึ้นไปอีก
“เราจะต้องรวบรวมข้อมูล เราต้องส่งมอบอาวุธที่จำเป็นให้แก่ยูเครนเพื่อให้พวกเขาสามารถยืนหยัดต่อสู้กับรัสเซียได้ต่อไป และเรายังต้องได้รายละเอียดทุกอย่างเพื่อนำไปสู่การไต่สวนคดีอาชญากรรมสงครามอย่างแท้จริง”
ทำเนียบเครมลินออกมาปฏิเสธข้อครหาเรื่องการสังหารหมู่พลเรือนอย่างสิ้นเชิง รวมถึงที่บูชา ซึ่งพวกเขาอ้างว่าทั้งหลุมฝังศพและศพที่นอนตายกลาดเกลื่อนเมืองนั้นเป็น “การจัดฉาก” เพื่อป้ายสีความผิดให้กองทัพรัสเซีย
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า สหรัฐฯ เตรียมที่จะขอข้อมูลจากแหล่งข่าว 4 ฝ่ายเพื่อเปิดการไต่สวนคดีอาชญากรรมสงคราม ซึ่งได้แก่ 1) สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร รวมไปถึงหน่วยข่าวกรอง 2) ผู้สังเกตการณ์ชาวยูเครนในพื้นที่ 3) องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และ 4) บทสัมภาษณ์จากสื่ออิสระทั่วโลก
ซัลลิแวน เผยด้วยว่า สหรัฐฯ จะยื่นฟ้องเอาผิดรัสเซียต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) หรือไม่ก็องค์กรอื่น เนื่องจากรัสเซียเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นั่นหมายความว่าความพยายามเรียกร้องให้รัสเซียตกเป็นจำเลยฐานก่ออาชญากรรมสงครามย่อมจะถูกสกัดขัดขวางในเวทีนี้
ปัจจุบันสหรัฐฯ เองยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมเป็นรัฐภาคีของศาลไอซีซี
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ซึ่งลงพื้นที่ที่เมืองบูชาเมื่อวานนี้ (4) กล่าวประณามการสังหารหมู่พลเรือนที่นั่นว่าเป็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” (genocide) พร้อมเตือนว่าอาจจะมีการพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งทหารยูเครนยึดคืนกลับมาได้
“และนี่แค่เมืองเดียวเท่านั้น ยังมีอีกหลายชุมชนของยูเครนที่ถูกทหารรัสเซียยึดไปได้... ตอนนี้มีข้อมูลว่าที่โบโรเดียนกา (Borodyanka) หรือเมืองอื่นๆ ของยูเครนที่ได้รับการปลดปล่อย ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงยิ่งกว่านี้” เซเลนสกี กล่าว โดยอ้างถึงเมืองซึ่งอยู่ห่างจากบูชาไปทางตะวันตกประมาณ 25 กิโลเมตร
ผู้นำยูเครนเตรียมที่จะแถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันนี้ (5) เพื่อระดมเสียงสนับสนุนจากนานาชาติให้มีการไต่สวนเรื่องการสังหารหมู่ในบูชา
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับวานนี้ (4) ว่า เพนตากอนยัง “ไม่สามารถยืนยัน” ข้อมูลเรื่องที่รัสเซียสังหารหมู่พลเรือนที่บูชา ทว่าก็ไม่มีเหตุผลที่จะโต้แย้งเช่นกัน
“เราได้เห็นภาพเดียวกับที่ทุกคนเห็น และเราไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของยูเครนเกี่ยวกับความรุนแรงโหดร้ายนี้ มันเป็นเรื่องที่สลดหดหู่อย่างยิ่ง” เจ้าหน้าที่เพนตากอนระบุ
ที่มา : รอยเตอร์