เร็วๆ นี้ ชาติต่างๆ ทั่วโลกอาจจำเป็นต้องสร้างทุนสำรองรูเบิลในเศรษฐกิจภายในของตนเอง หากยังต้องการซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซียต่อไป ในขณะที่มอสโกเปลี่ยนระบบการชำระเงินเป็นสกุลเงินรูเบิล จากความเห็นของ อิลยา อิลยิน หัวหน้าแผนกวิเคราะห์ตลาดการเงินและธนาคารของสถาบันการเงิน พรอมสวยาสแบงก์ (Promsvyazbank)
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ทำการลงนามในกฤษฎีกาเกี่ยวกับขั้นตอนพิเศษที่ให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่างๆ ต้องจ่ายค่าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิล โดยปูตินได้กล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ว่า ในการซื้อก๊าซของรัสเซีย พวกเขาจำเป็นต้องเปิดบัญชีรูเบิลในธนาคารของรัสเซีย หากปฏิเสธจะถือเป็นการผิดสัญญา และสัญญาจะถูกยกเลิกไป
การชำระรูปแบบดังกล่าวจะเริ่มในวันที่ 1 เมษายน ทั้งนี้ ผู้ซื้อควรเปิดบัญชีพิเศษใน แกซพรอมแบงก์ (Gazprombank) สถาบันการเงินหลักที่ชำระเงินค่าก๊าซของรัสเซีย เพื่ออนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นรูเบิลเพื่อการชำระบัญชีได้
อิลยา อิลยิน กล่าวว่า "ในกรณีของการทำธุรกรรมชำระค่าก๊าซเป็นรูเบิล บางทีประเทศพันธมิตรทั้งหลายอาจจะต้องสร้างทุนสำรองรูเบิลบางอย่างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกการใช้เงิน"
ปูติน แถลงในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ว่าประเทศของเขากำลังเปลี่ยนแปลงกลไกการชำระเงินสำหรับการส่งออกบางประเภท เริ่มด้วยก๊าซธรรมชาติในวันที่ 1 เมษายน มาตรการนี้บังคับใช้กับประเทศต่างๆ ที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ต่อกรณีรุกรานยูเครนและอายัดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของมอสโก
"ประเทศที่ไม่เป็นมิตร" ที่ ปูติน อ้างถึงได้แก่สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ สมาชิก 27 ชาติของอียู และประเทศเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง
อิลยิน มองว่าในส่วนของรัสเซียอาจจะต้องลดกองทุนสำรองของตนในสกุลเงินของเหล่าชาติไม่เป็นมิตรอย่างเช่นดอลลาร์ และยูโร และสะสมเงินชาติตัวเองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงหากถูกอายัดเงินที่ได้รับการชำระ สืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตร
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)