เซเลนสกียันเจรจาสันติภาพคืบหน้าแต่ไม่เชื่อใจรัสเซีย ไบเดนขอดูก่อนแล้วค่อยประเมิน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนในวันอังคาร (29 มี.ค.) ระบุว่าการเจรจากับคณะผู้แทนของรัสเซีย ส่งสัญญาณในแง่บวกบวกบางอย่าง แต่เตือนไม่อาจวางใจมอสโกได้ เช่นเดียวกับโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่บอกว่าขอรอดูก่อน แล้วค่อยประเมินเจตนาที่แท้จริงของทางรัสเซีย

รัสเซียแถลงหลังการเจรจาระหว่างคณะผู้แทนยูเครนกับรัสเซียในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี วันอังคาร (29 มี.ค.) ว่าจะลดระดับการสู้รบลงอย่างมากรอบๆ กรุงเคียฟและเชอร์นิฮิฟ เมืองใหญ่ทางภาคเหนือของยูเครน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซียบอกว่า มอสโกตัดสินในปรับลดปฏิบัติการต่างๆ ใกล้เมืองหลวงของยูเครนและเมืองหลักอีกแห่ง "เพื่อเพิ่มความไว้วางใจต่อกัน" ในการเจรจาที่มีเป้าหมายยุติการสู้รบ

ในการปราศรัยผ่ายวิดีโอช่วงค่ำวันอังคาร (29 มี.ค.) เซเลนสกี ระบุว่า ปฏิบัติการที่กล้าหาญและมีประสิทธิภาพของทหารยูเครน บีบให้รัสเซียลดระดับความเคลื่อนไหวรอบๆ กรุงเคียฟของเชอร์นิฮิฟ

เขาบอกว่ายูเครนจะเดินหน้ากระบวนการเจรจา แต่เน้นว่า "มีความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในคำพูดที่หลุดมาจากคณะผู้แทนของประเทศที่ยังคงเดินหน้าสู้รบทำลายเรา"

เซเลนสกีเน้นย้ำด้วยว่าคณะผู้แทนเจรจาของยูเครนไม่ประนีประนอมใดๆ ต่อ "อำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน"

ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เผยเขากำลังรอดูแนวทางที่รัสเซียปรับเปลี่ยนกำลังทหารในยูเครน ก่อนประเมินถึงความเจตนาที่อยู่เบื้องหลังข้อเสนอของมอสโก

ระหวางให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ไบเดนถูกถามว่าการถอนกำลังของรัสเซีย เป็นสัญญาณว่าการเจรจาที่หยุดการรุกรานที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน อาจมีความคืบหน้าใช่หรือไม่ หรืออาจแค่บ่งชี้เฉยๆ ว่ารัสเซียกำลังพยายามซื้อเวลา เพื่อเดินหน้าโจมตียูเครนต่อไป

"แล้วเราจะได้เห็นกัน" เขากล่าว "ผมไม่ตีความอะไรในเรื่องนี้ จนกว่าผมจะได้เห็นความเคลื่อนไหวต่างๆ ของพวกเขา"

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวว่า เขายังข้องใจเกี่ยวกับ “ความจริงจัง” ของรัสเซีย

“มีสิ่งที่รัสเซียพูด และมีสิ่งที่รัสเซียทำ เรากำลังโฟกัสที่เรื่องหลัง” เขากล่าวเช่นนี้ขณะแถลงข่าวที่โมร็อกโก และสำทับต่อไปว่า “สิ่งที่รัสเซียกำลังทำคือการสร้างความทารุณโหดร้ายอย่างต่อเนื่องแก่ยูเครนและแก่ประชาชนของยูเครน และเรื่องเหล่านี้ยังคงดำเนินอยู่ขณะที่เราพูดกันอยู่นี้”

เพนตากอนเผยว่า ตรวจพบกองกำลังภาคพื้นของรัสเซีย "จำนวนเล็กๆ" กำลังเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่กรุงเคียฟ โดยทางโฆษก จอห์น เคอร์บี ระบุในวันอังคาร (29 มี.ค.) ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวดูเหมือนเป็นการเคลื่อนย้ายที่ตั้งกองกำลัง "ไม่ใช่การถอนทหารที่แท้จริง" และยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ารัสเซียมีความเคลื่อนไหวทางทหารกว้างขวางแค่ไหน หรือทหารเหล่านั้นย้ายที่ตั้งไปยังตำแหน่งใด

"มันไม่ได้หมายความว่าภัยคุกคามต่อกรุงเคียฟสิ้นสุดลง" เขากล่าว "พวกเขายังคงสามารถก่อความโหดเหี้ยม ความทุกข์ทรมานแก่ประเทศแห่งนี้ ในนั้นรวมถึงกรุงเคียฟ" เคอร์บี ระบุ พร้อมอ้างว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเมืองหลวงของยูเครน

เมื่อถูกสอบถามว่า เพนตากอนประเมินหรือไม่ว่าปฏิบัติทางทหารของรัสเซียในยูเครนประสบความล้มเหลว เคอร์บีตอบว่ากองกำลังรัสเซียล้มเหลวในเป้าหมายเบื้องต้นสำหรับพิชิตกรุงเคียฟ แต่ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อประเทศแห่งนี้ ในนั้นรวมถึงภูมิภาคดอนบาส ดินแดนที่ดูเหมือนว่าเวลานี้ทหารรัสเซียกำลังมุ่งเน้นเต็มกำลัง

คณะผู้แทนของยูเครนที่เจรจากับรัสเซีย วางกรอบความเป็นไปได้สำหรับข้อตกลงสันติภาพหนึ่งใดในอนาคต บนพื้นฐานของคำรับประกันด้านความมั่นคงที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ที่จะเปิดทางประเทศอื่นๆ เข้าแทรกแซง หากว่ายูเครนถูกโจมตี

โอเล็คซานด์ร ชาลี ตัวแทนเจรจาของยูเครน ระบุในวันอังคาร (29 มี.ค.) ว่าคำรับประกันต่างๆ ควรคล้ายกับที่ระบุไว้ในมาตรา 5 ของกฎบัตรจัดตั้งองค์การนาโต้ ซึ่งให้คำมั่นว่าสมาชิกของพันธมิตรแห่งนี้จะปกป้องกันและกันในกรณีที่ถูกโจมตี

ผู้แทนเจรจารายนี้เผยว่ายูเครนเตรียมให้คำสัญญาจะมีสถานะเป็นกลาง ไม่ต้อนรับกองกำลังทหารต่างชาติในประเทศ และจัดเจรจาหารือตลอดช่วง 15 ปีข้างหน้า เกี่ยวกับอนาคตของแหลมไครเมีย ที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014

เดวิด อาราคาเมีย อีกหนึ่งผู้แทนเจรจา ระบุว่าข้อตกลงสันติภาพใดๆ จะต้องผ่านการทำประชามติของชาวยูเครน ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกองกำลังต่างชาติทั้งหมดถอนกำลังออกไปแล้ว

(ที่มา : เอพี)