เซี่ยงไฮ้ออกคำสั่งล็อกดาวน์ 2 จังหวะ โดยแบ่งเมืองออกเป็น 2 ส่วน และเริ่มปิดสะพานและอุโมงค์ จำกัดการจราจรบนทางหลวงด้านตะวันออกตั้งแต่วันจันทร์ (28 มี.ค.) เพื่อควบคุมการระบาดของโควิดครั้งใหญ่ที่สุดในจีน ควบคู่กับการปกป้องเศรษฐกิจของมหานครแห่งนี้ที่เป็นหัวรถจักรสำคัญของเศรษฐกิจภายในประเทศรวมถึงเศรษฐกิจโลก
มาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลท้องถิ่นของเซี่ยงไฮ้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (27 มี.ค.) จะแบ่งเมืองออกเป็น 2 ส่วนคร่าวๆ ตามแนวแม่น้ำหวงผู่ และใช้มาตรการล็อกดาวน์รวม 9 วัน
คำสั่งนี้สะท้อนการเปลี่ยนจุดยืนกะทันหันของทางการเซี่ยงไฮ้ หลังจากเพิ่งยืนยันว่า จะไม่มีการล็อกดาวน์เมื่อคืนวันเสาร์ (26) แต่จะใช้แนวทางการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่เพื่อให้เศรษฐกิจของเมืองที่มีประชากร 25 ล้านคนแห่งนี้เดินหน้าได้ต่อไป
อู่ ฟาน สมาชิกทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโควิดในเซี่ยงไฮ้ แถลงว่า การระดมตรวจโควิดพบการระบาด “ขนาดใหญ่” ทั่วเมืองซึ่งทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในประเทศจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการรับมือที่เข้มข้นขึ้น ควบคู่กับการปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อเพื่อให้การระบาดสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 3,450 คนในวันอาทิตย์ หรือเกือบ 70% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ และผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการอีก 50 คน
สำหรับทั่วประเทศจีนในวันเดียวกันนั้นพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 5,134 คน และผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 1,219 คน
ในฐานะหัวรถจักรกระตุ้นเศรษฐกิจหลักของจีน เซี่ยงไฮ้จึงพยายามตอบสนองการเรียกร้องของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการลดผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิดที่มีต่อธุรกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน
ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ อู่ระบุว่า ไม่สามารถล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้เป็นเวลานานได้เนื่องจากเมืองนี้มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลก
ทว่า หลังจากต้องกลับลำนโยบายเมื่อวันอาทิตย์ โครงการตรวจโควิดได้ทำให้การเดินทางขนส่งหยุดชะงัก เช่นเดียวกับกิจกรรมการดูแลสุขภาพ และเศรษฐกิจในวงกว้าง
สำนักงานความมั่นคงสาธารณะเซี่ยงไฮ้ประกาศปิดสะพานและอุโมงค์ข้ามแม่น้ำ ตลอดจนด่านเก็บเงินทางด่วนที่กระจุกอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองที่เรียกว่าเขตผู่ตง ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติแห่งหลักและศูนย์กลางการเงินตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันที่ 1 เมษายน
ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำหวงผู่ที่เรียกว่าเขตผู่ซีที่มีประชากรมากกว่านั้นจะเริ่มมาตรการจำกัดแบบเดียวกันนี้ตั้งแต่วันที่ 1-5 เมษายน
สำนักงานความมั่นคงสาธารณะเซี่ยงไฮ้เสริมว่า จะควบคุมการจราจรบนทางหลวงที่เข้าและออกจากเมือง และผู้ที่ต้องการเดินทางออกจากเมืองต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิดเป็นลบในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
รัฐบาลมหานครเซี่ยงไฮ้ประกาศว่า จะระงับระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงบริการซอฟต์แวร์เรียกรถสาธารณะในพื้นที่ที่ล็อกดาวน์ อีกทั้งยังสั่งระงับการทำงานของบริษัทและโรงงานต่างๆ ยกเว้นบริการสาธารณะหรือการจัดหาอาหาร
นอกจากนั้น ยังมีการระงับการให้บริการของโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วเซี่ยงไฮ้ เพื่อจัดสรรบุคลากรการแพทย์และทรัพยากรอื่นๆ ไปช่วยในการระดมตรวจโควิด
ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจีนสามารถควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ผ่านมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งครอบคลุมถึงการล็อกดาวน์พื้นที่ขนาดใหญ่ในเมืองและมณฑลต่างๆ แม้พบผู้ติดเชื้อเพียงเล็กน้อยก็ตาม
แต่การมาถึงของโอมิครอนได้พิสูจน์ว่า มาตรการเข้มข้นของจีนไร้ผลในการสกัดไวรัสกลายพันธุ์นี้ โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จีนพบเคสใหม่วันละหลายพันคน จากไม่ถึงร้อยคนในเดือนกุมภาพันธ์
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)