xs
xsm
sm
md
lg

ยอดติดเชื้อโควิดในยุโรปพุ่งพรวดรอบใหม่จากสายพันธุ์ใหม่ของ ‘โอมิครอน’ ด้านรัฐบาลยังคงเดินหน้าเลิกคุมเข้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสวมชุดป้องกันเชื้อโรคครบครัน เตรียมขนข้าวของเข้าไปในพื้นที่พำนักอาศัยแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง, ประเทศจีน ซึ่งประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เนื่องจากมีโควิด-19 ระบาด เมื่อวันอังคาร (22 มี.ค.)
จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในหลายชาติยุโรปกำลังกลับพุ่งกระฉูดขึ้นมาอีกครั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญชี้มีหลายปัจจัยสมทบบวกเข้าด้วยกัน ทั้งจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการจำกัด ภูมิต้านทานอ่อนแอลง และสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่ระบาดง่ายขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ทางด้านจีนแม้ยังเหนียวแน่นกับนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” แม้เคสใหม่ยังเพิ่มไม่หยุด และล่าสุดในคืนวันจันทร์ (21 มี.ค.) ต้องล็อกดาวน์เมืองเสิ่นหยางที่มีประชากร 9 ล้านคน อีกเมืองหนึ่ง

หลังจากจำนวนผู้ติดโควิดลดลงทั่วยุโรปมากว่า 1 เดือน แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีต่างพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างฮวบฮาบ เช่น ฝรั่งเศสที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 ใน 3 ภายในสัปดาห์เดียว หลังจากรัฐบาลยุติมาตรการจำกัดเข้มงวดส่วนใหญ่ไปเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (14)

ส่วนที่เยอรมนี พบเคสใหม่รายวันสูงสุดทำสถิติที่เกือบ 300,000 คนในวันศุกร์ (18) กระนั้นรัฐบาลยังคงตัดสินใจไม่ต่ออายุมาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อป้องกันโควิดที่กำหนดสิ้นสุดลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ในระดับท้องถิ่น รัฐส่วนใหญ่ของเยอรมนียังคงบังคับใช้มาตรการเหล่านี้ต่อไปก็ตาม

ด้านอิตาลีเตรียมยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม แม้กำลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับอังกฤษที่ยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศล็อตสุดท้ายไปเมื่อวันศุกร์ แม้ประชาชน 1 คนในทุก 20 คนติดโควิด

ขณะที่บางฝ่ายกล่าวโทษว่า การผ่อนคลายกฎของภาครัฐเป็นสาเหตุทำให้ยอดผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกระลอก ทว่า นักระบาดวิทยาเชื่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ สายพันธุ์ย่อยของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดหนักอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีชื่อว่า บีเอ.2 หรือบางคนให้ฉายาว่า “โอมิครอนล่องหน” เนื่องจากตรวจพบอาการได้ยากกว่า ทว่าสามารถระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยของโอมิคอรนก่อนหน้านี้คือ บีเอ.1 ถึง 30%

ลอเรนซ์ ยัง นักไวรัสวิทยาของมหาวิทยาลัยวอร์วิกในอังกฤษ ชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในยุโรปเกิดจาก 3 ปัจจัยประกอบกันคือ การยกเลิกมาตรการจำกัด ภูมิคุ้มกันที่จะอ่อนแอลงหลังฉีดวัคซีนไปแล้วระยะหนึ่ง และบีเอ.2 เขาชี้ด้วยว่า การยกเลิกข้อจำกัดส่งผลกระตุ้นการระบาดของบีเอ.2 และนี่อาจเป็นเหตุให้ไวรัสนี้มีการกลายพันธุ์ต่อไปอีก

สำหรับสถานการณ์การระบาดในจีน ซึ่งอยู่อีกซีกหนึ่งของโลกนั้น แม้จีนยังยืนยันใช้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ต่อไป แต่เมื่อเผชิญกับความสามารถแพร่เชื้อติดต่อได้อย่างรวดเร็วของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ทำให้การระบาดรอบนี้ยังไม่มีทีท่าจะนิ่ง โดยเมื่อคืนวันจันทร์ (21) ทางการต้องประกาศคุมเข้มความเคลื่อนไหวและการจัดกิจกรรมต่างๆ ของประชาชนในเมืองเสิ่นหยาง ของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีประชากรถึง 9 ล้านคน ขณะที่ในวันอังคาร (22) จีนยังรายงานว่า พบเคสใหม่ทั่วประเทศจำนวน 4,470 คน

ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ จีนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับคลัสเตอร์โอมิครอนที่ทยอยพบตามเมืองต่างๆ ทั้งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหานครเซี่ยงไฮ้ และเมืองเซินเจิ้น ซึ่งอยู่ติดกับฮ่องกง ทางภาคใต้ของแดนมังกร โดยมีทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นบางส่วน การระดมตรวจโควิดทั่วทั้งเขตหรือกระทั่งทั้งนคร และการปิดเมือง ทว่า วันเสาร์ที่ผ่านมา (19) มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด 2 คนซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบเวลากว่า 1 ปี

อนึ่ง สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ย้ำความจำเป็นในการลดผลกระทบจากโควิดต่อเศรษฐกิจจีนให้เหลือน้อยที่สุด แต่ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยึดมั่นในแนวทาง “โควิดเป็นศูนย์” ต่อไป

(ที่มา : เอเอฟพี, เอเจนซีส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น