นาโต้สัญญากับเคียฟว่าจะให้การสนับสนุนทางทหารรอบใหม่ และส่งทหารเข้าประจำการทางปีกตะวันออกของพันธมิตรแห่งนี้เพิ่มเติม แม้ยูเครนร้องขอให้กำหนดเขตห้ามบินและคว่ำบาตรมอสโกหนักหน่วงขึ้น ในขณะที่หลายชาติในยุโรปส่งเสียงโวยวาย หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศจะบังคับให้พวกชาติ “ที่ไม่เป็นมิตร” ซึ่งรวมถึงพวกชาติสมาชิกอียูทั้งหมดจ่ายค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิล
พวกผู้นำนาโต้ที่กำลังประชุมกันในบรัสเซลส์ เห็นพ้องช่วยยูเครนปกป้องตนเองจากการถูกโจมตีใดๆ ด้วยอาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่าวอชิงตันและพันธมิตรกำลังทำงานร่วมกันในการมอบขีปนาวุธต่อต้านเรือให้แก่เคียฟ
"สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือการคงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และการที่โลกจะยังคงเพ่งเล็งไปที่ความโหดเหี้ยมของชายคนนี้ และทุกชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสียและถูกทำลาย" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวระหว่างแถลงข่าวในบรัสเซลส์ อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน "เราจำเป็นต้องคงความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเหนียวแน่น ครบถ้วนและตลอดไป"
อย่างไรก็ตาม คำสัญญาสนับสนุนจากบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ซึ่งมีสัดส่วนทางเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีโลก ไม่เป็นไปตามเสียงเรียกร้องของยูเครน ที่ร้องขอให้คว่ำบาตรหนักหน่วงขึ้น ในนั้นรวมถึงแบนนำเข้าพลังงานรัสเซีย
อุปทานก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของอุปสงค์ทั้งหมดของอียู ในขณะที่อุปทานน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอียู ดังนั้น หลายประเทศที่พึ่งพิงอุปทานพลังงานจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี จึงมีความลังเลแบนนำเข้าพลังงานจากมอสโก เนื่องจากเกรงว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจใหญ่หลวง
ในความเคลื่อนไหวที่ทำให้ยุโรปต้องเผชิญสภาวะลำบากมากขึ้นไปอีก ปูตินประกาศจะบังคับให้พวกชาติ “ที่ไม่เป็นมิตร” ซึ่งรวมถึงพวกชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด จ่ายค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิล โดยให้แบงก์ชาติรัสเซียทำเรื่องนี้ภายใน 1 อาทิตย์
จาเนซ แจนซา นายกรัฐมนตรีสโลวะเกีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "ไม่มีใครจะจ่ายด้วยสกุลเงินรูเบิล" ส่วน อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกมันว่าเป็นการ "แบล็กเมล์"
ยูเครนเป็นอดีตสหภาพโซเวียต แต่ความปรารถนาเข้าร่วมอียูและนาโต้ของพวกเขาโหมกระพือความเดือดกาลแก่มอสโก กองกำลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในสิ่งที่ ปูติน เรียกว่า เป็นปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร ซึ่งมีเป้าหมายทำลายศักยภาพด้านการทหารของยูเครนและลบล้างความเป็นนาซี
ปฏิบัติการรุกรานส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายพันคน และราว 1 ใน 4 ของประชากรประมาณ 44 ล้านคนของยูเครน ต้องหลบหนีจากที่พักอาศัย มีการทิ้งระเบิดโจมตีพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และโรงพยาบาลตามเมืองต่างๆ ของยูเครน ในนั้นรวมถึงคาร์คิฟและมาริอูโปล เมืองที่ถูกปิดล้อมตามแนวชายฝั่งทะเลอาซอฟ
"ปูตินข้ามเส้นตายเข้าสู่ความป่าเถื่อนแล้ว" บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าว ในขณะที่ลอนดอนเปิดตัวมาตรการคว่ำบาตรกำหนดข้อจำกัดต่อสถาบันการเงิน ก๊าซพรอมแบงก์ และอัลฟาแบงก์ "มาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงขึ้นของเรา ที่คือสิ่งที่เราสามารถทำได้มากยิ่งขึ้นเพื่อช่วยยูเครน"
อย่างไรก็ตาม เป็นอีกครั้งที่นาโต้ปฏิเสธคำร้องขอของคียฟ ที่เรียกร้องให้ปกป้องน่านฟ้ายูเครนด้วยการกำหนดเขตห้ามบิน และบอกว่าจะไม่ส่งทหารเข้าไปยังยูเครน ด้วยความกังวลว่ามันอาจถูกลากเข้าสู่การเผชิญหน้าทางทหารเต็มรูปแบบกับรัสเซีย ชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเสียงเรียกร้องจากยูเครน ที่ขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม ทาง เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ตอบว่า "พันธมิตรแห่งนี้กำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ในการสนับสนุนยูเครนด้วยอาวุธ เพื่อที่ยูเครนสามารถปกป้องตนเอง" พร้อมระบุว่าระดับของการสนับสนุนนั้นมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว
พวกผู้นำนาโต้ระบุในถ้อยแถลงร่วมว่าพวกเขามีความเป็นหนึ่งเดียวกันและมีความมุ่งมั่นในความตั้งใจต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนชาวยูเครน และปกป้องความปลอดภัยของพันธมิตรทุกชาติ
นาโต้ ซึ่งได้เพิ่มกำลังพลทางปีกตะวันออก เป็นกว่า 40,000 นาย กระจายกันไปตามแถบคาบสมุทรบอลติกไปจนถึงทะเลดำ ได้เห็นพ้องจัดตั้งหน่วยประจัญบานใหม่ ในบัลแกเรีย โรมาเนีย ฮังการี และสโลวะเกีย
ขณะเดียวกัน พันธมิตรแห่งนี้ยังได้ส่งเสียงเตือนไปยังจีน ว่าควร "ละเว้นจากการให้การสนับสนุนความพยายามก่อสงครามของยูเครน ไม่ว่าในแนวทางใดก็ตาม และยับยั้งความเคลื่อนไหวใดๆ ที่ช่วยรัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร"
ไบเดน บอกว่าจีนควรตระหนักว่าอนาคตทางเศรษฐกิจของพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตะวันตกมากกว่ารัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้เคยเตือนปักกิ่งว่าจะเจอผลลัพธ์หนักหน่วงหากว่าให้ความช่วยเหลือสงครามของมอสโกในยูเครน
(ที่มา : รอยเตอร์)
