ปักกิ่งเรียกร้องรัสเซีย-ยูเครนเจรจาโดยตรง แนะนาโต้ให้คิดถึงผลของการขยายอิทธิพล

เอเอฟพี - จีนเรียกร้องให้รัสเซีย-ยูเครนเปิดการเจรจาโดยตรง ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศแดนมังกรย้ำว่า อเมริกา นาโต้ อียู และรัสเซีย ควรหารือกันโดยโฟกัสที่ผลกระทบแง่ลบจากการที่นาโต้เดินหน้าขยายอิทธิพลทางด้านตะวันออกที่จะเกิดกับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงของรัสเซีย ด้านอียูชี้ปักกิ่งควรเป็นตัวกลาง เนื่องจากมหาอำนาจตะวันตกไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้

กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน บอกกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 มี.ค.) ว่าปักกิ่งสนับสนุนการเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน และหวังว่าการต่อสู้จะยุติลงโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ แต่ยอมรับว่า การเจรจาดังกล่าวคงไม่ราบรื่นนัก

ขณะเดียวกัน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า บลิงเคนกล่าวกับหวังว่า โลกกำลังเฝ้าดูว่าจะมีประเทศใดที่ออกมาปกป้องหลักการพื้นฐานของเสรีภาพ การกำหนดอนาคตด้วยตนเอง และอธิปไตย และว่าทั่วโลกกำลังจับมือกันคัดค้านและตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และทำให้แน่ใจว่า มอสโกจะต้องได้รับผลลัพธ์อย่างสาสมจากการกระทำนี้

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีต่างประเทศสองชาติมหาอำนาจหารือกันนับจากรัสเซียเปิดฉากถล่มและเผชิญการต่อต้านอย่างดุเดือดจากยูเครนที่ยังคงควบคุมกรุงเคียฟไว้ได้ขณะที่สงครามดำเนินมาถึงวันที่สิบ

นับตั้งแต่ความขัดแย้งนี้ระเบิดขึ้น จีนดำเนินมาตรการทางการทูตอย่างระมัดระวัง โดยปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียหลังจากเมื่อเดือนที่แล้วได้ลั่นวาจาว่า มิตรภาพปักกิ่ง-มอสโก “ไร้ขีดจำกัด”

โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ เอล มุนโด ของสเปนเมื่อค่ำวันศุกร์ (4 มี.ค.) ว่าจีนควรเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนในอนาคตเนื่องจากมหาอำนาจตะวันตกไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ และไม่ใช่แค่ยุโรปหรืออเมริกาเท่านั้น แต่จีนควรมีบทบาททางการทูตในวิกฤตการณ์นี้ด้วยเช่นกัน

บอร์เรลล์ สำทับว่า ไม่ได้ร้องขอเรื่องนี้กับจีนและจีนเองก็ไม่ได้เสนอตัว แต่เห็นได้ชัดว่า อียูและอเมริกาไม่สามารถเป็นตัวกลาง รวมถึงฟื้นกรอบการเจรจานอร์มังดีที่ประกอบด้วยรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส และเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม ขณะที่อเมริกาและหลายประเทศออกมาตรการแซงก์ชันครั้งใหญ่ต่อมอสโก จีนกลับไม่เคยระบุว่า วิกฤตครั้งนี้ถือเป็นสงคราม

ในวันเสาร์ หวัง อี้ ย้ำความซับซ้อนของปัญหานี้อีกครั้งโดยกล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของทุกฝ่าย และชี้ว่า อเมริกา องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) อียู และรัสเซีย ควรหารือกันและมุ่งเน้นความสนใจที่ผลกระทบแง่ลบจากการที่นาโต้เดินหน้าขยายอิทธิพลทางด้านตะวันออกที่จะเกิดกับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงของรัสเซีย ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่มอสโกเรียกร้อง

ข้อมูลล่าสุดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า นับจากรัสเซียเปิดฉากบุกเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีประชาชนเกือบ 1.37 ล้านคนหนีออกจากยูเครนแล้ว