จีนควรเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพในอนาคตระหว่างรัสเซียและยูเครน ในขณะที่บรรดามหาอำนาจตะวันตกไม่สามารถเติมเต็มบทบาทดังกล่าวได้ จากคำแนะนำของโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป
ที่ผ่านมา ปักกิ่งปฏิเสธประณามปฏิบติการจู่โจมของมอสโกต่อยูเครน ประเทศเพื่อนบ้านฝักใฝ่ตะวันตก ว่าเป็นการ "รุกราน" ในขณะที่พวกเขาหาทางคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์กับรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนบอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า จีนเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่งต่อภัยอันตรายที่พลเรือนต้องประสบ ตามรายงานของซีซีทีวี สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ
"ไม่มีทางเลือกอื่นๆ มันต้องเป็นจีน ผมแน่ใจในเรื่องนี้" บอร์เรลล์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเอล มุนโด หนังสือพิมพ์สเปนในช่วงเย็นวันศุกร์ (4 มี.ค.) "การทูตไม่สามารถมีเพียงแค่ยุโรปหรืออเมริกา การทูตจึนจำป็นต้องมีบทบาทให้เล่นในเรื่องนี้ด้วย" เขากล่าว
"เราไม่ได้ร้องขอพวกเขาหรือพวกเขาไม่ได้ร้องขอ แต่เนื่องด้วยพวกเขาเป็นประเทศมหาอำนาจชาติหนึ่ง และทั้งสหรัฐฯ และยุโรปไม่สามารถเป็นคนกลาง ดังนั้นมันจึงควรเป็นจีน"
บอร์เรลล์ กล่าวว่า "แน่นอน" อียูและสหรัฐฯ ไม่สามารถเป็นคนกลาง และปฏิเสธรื้อฟื้นการเจรจาหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งในรูปแบบที่เรียกว่า “นอร์มังดี ฟอร์แมต” ซึ่งก็คือกรอบการทูต 4 ฝ่าย ประกอบไปด้วยเยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย และยูเครน
นอร์มังดี ฟอร์แมต ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2014 ในความพยายามเพื่อยุติการสู้รบระหว่างยูเครนและพวกแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในทางภาคตะวันออกของประเทศ
เดวิด อาราคาเมีย ผู้แทนเจรจาของยูเครน เปิดเผยในวันเสาร์ (5 มี.ค.) ว่าการเจรจาระหว่างมอสโกและเคียฟ เพื่อหาทางยุติเหตุความขัดแย้งนองเลือดจะกลับมาพูดคุยหารือกันอีกรอบในวันจันทร์ (7 มี.ค.) ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เข้าสู่วันที่ 10 แล้ว
(ที่มา : เอเอฟพี)