ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แถลงนโยบายประจำปี (state of the union) ต่อสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกเมื่อช่วง 09.00 น. วันนี้ (2 มี.ค.) ตามเวลาในไทย โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงประณามผู้นำรัสเซียว่าเป็น “เผด็จการ” พร้อมประกาศ “ปิดน่านฟ้า” ห้ามเครื่องบินรัสเซียผ่านเข้า-ออก แต่ยังคงยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปสู้กับกองกำลังรัสเซียในยูเครน
ไบเดน ได้เชิญชวนสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ให้ลุกขึ้น “ยืนปรบมือ” ให้ชาวยูเครนที่กำลังต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย โดยกล่าวว่า “ขอให้พวกเราทุกคน ถ้าท่านสามารถที่จะลุกขึ้นได้ โปรดยืนและส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังยูเครนและทั่วโลก”
สมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนยูเครน หลายคนโบกธงชาติยูเครน และส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสภาผู้แทนราษฎร
การแถลงนโยบายประจำปีถือเป็นโอกาสสำคัญที่ ไบเดน จะได้แสดงวิสัยทัศน์และเรียกคะแนนนิยมจากชาวอเมริกัน หลังจากที่ทำผลงานกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระจายเม็ดเงินหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่โครงการต่างๆ ในช่วง 1 ปีแรกของการบริหารประเทศ แต่ยังคงเผชิญกับวิกฤตเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี ตลอดจนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ไม่ถูกบังคับให้ต้องสวมหน้ากากระหว่างเข้าประชุมสภา และก่อนที่ ไบเดน จะเดินทางมาถึงได้มีการแจกธงชาติยูเครน ขณะที่ ส.ส.หญิงหลายคนเลือกแต่งกายด้วยชุดสีฟ้าและเหลืองซึ่งเป็นสีของธงชาติยูเครน
ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียถือเป็นบททดสอบศักยภาพของไบเดน ว่าจะสามารถตอบสนองวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้หรือไม่ โดยที่สหรัฐฯ ไม่ต้องพาตัวเองเข้าสู่สงคราม
สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพร้อมใจกันประกาศมาตรการคว่ำบาตรที่พุ่งเป้าไปยังระบบเศรษฐกิจและการเงินของรัสเซีย รวมไปถึงตัว ปูติน และเหล่าคนวงในใกล้ชิด โดยคาดว่าจะมีบทลงโทษเพิ่มเติมตามมาอีก
ไบเดน ตราหน้าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่าเป็น “เผด็จการ” ที่จะต้องเผชิญกับมาตรการโดดเดี่ยวทั้งทางเศรษฐกิจและการทูตจากการออกคำสั่งรุกรานยูเครน พร้อมเตือนว่าโลกกำลังอยู่ในภาวะสงครามระหว่างประชาธิปไตย (democracy) และระบอบเผด็จการ (autocracy)
อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้
“ผมขอพูดชัดๆ ตรงนี้ว่า ทหารของเราจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามกับกองกำลังรัสเซียในยูเครน” ไบเดน กล่าว
“ผู้นำเผด็จการรัสเซียที่รุกรานชาติอื่น ย่อมมีราคาที่จะต้องจ่ายทั่วโลก... ในการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยกับระบอบเผด็จการ ประชาธิปไตยกำลังเป็นฝ่ายมีชัย และเห็นได้ชัดว่าโลกเลือกที่ยืนอยู่ข้างสันติภาพและความมั่นคง”
ไบเดน ชี้ว่า ปูติน “ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด” ทำให้ตอนนี้ “เศรษฐกิจรัสเซียกำลังทรุดหนัก และความรับผิดชอบทั้งหมดตกอยู่ที่ ปูติน แต่เพียงผู้เดียว”
“เขาหลงคิดว่าตัวเองจะสามารถบุกยูเครนโดยที่ทั่วโลกไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตรงกันข้าม...เขากลับต้องเผชิญกำแพงอันแข็งแกร่งที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อน เขากำลังเผชิญหน้ากับประชาชนชาวยูเครน” ไบเดน กล่าว “ตั้งแต่ประธานาธิบดี (โวโลดิมีร์) เซเลนสกี เรื่อยลงมาจนถึงชาวยูเครนทุกคน ความไม่หวาดกลัว ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นของพวกเขา สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก”
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ปูติน “ละเลย” ความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้น
“สงครามของ ปูติน ถูกวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า และไม่ได้มีการยั่วยุใดๆ เกิดขึ้นเลย เขาปฏิเสธความพยายามทางการทูต เขาคิดว่าตะวันตกและนาโต้คงจะไม่ตอบโต้ และเขาคิดว่าจะสามารถทำให้พวกเราที่นี่แตกแยกกันได้”
“แต่ ปูติน คิดผิด พวกเรามีความพร้อม”
ไบเดน ยืนยันด้วยว่า สหรัฐฯ จะร่วมมือกับนานาชาติในการประกาศปิดน่านฟ้าไม่ให้เครื่องบินรัสเซียผ่าน
“เรากำลังสร้างความเจ็บปวดให้แก่รัสเซียและสนับสนุนประชาชนชาวยูเครน เวลานี้ ปูติน ถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา... เขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“แม้เขาจะสามารถรุกคืบได้ในสนามรบ แต่เขาจะต้องจ่ายราคาแพงในระยะยาว... เราจะปิดกั้นรัสเซียจากเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะค่อยๆ ทำลายความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของพวกเขา และทำให้กองทัพรัสเซียอ่อนแอลงในอีกหลายปีข้างหน้า”
ออกซานา มาร์กาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมรับฟังการแถลงนโยบายประจำปีของผู้นำสหรัฐฯ ในฐานะแขกพิเศษของ จิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายหนึ่ง
ในส่วนของผลงานด้านเศรษฐกิจ ไบเดน ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะนี้เติบโตเร็วที่สุดตั้งแต่ปี 1984 โดยมีการจ้างงานเพิ่มถึง 6.6 ล้านตำแหน่ง และรัฐบาลได้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันไปหลายร้อยล้านโดส รวมถึงมีการเสนอชื่อ เคตันจี บราวน์ แจ็คสัน เป็นสตรีผิวสีคนแรกเพื่อดำรงตำแหน่งตุลาการศาลสูงสุด
“วิธีการหนึ่งที่จะลดปัญหาเงินเฟ้อได้ก็คือ ลดเงินเดือนและทำให้คนอเมริกันยากจนลง แต่เรามีแผนต่อสู้เงินเฟ้อที่ดีกว่านั้น... แทนที่จะพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากต่างประเทศ เราก็หันมาผลิตสินค้าในอเมริกาเองสิ แผนการแก้ปัญหาเงินเฟ้อของผมจะทำให้พวกคุณมีค่าใช้จ่ายลดลง และขาดดุลงบประมาณน้อยลงด้วย” ไบเดน กล่าว
ผลสำรวจล่าสุดโดยรอยเตอร์/อิปซอสที่เผยแพร่ในวันอังคาร (1 มี.ค.) พบว่า ชาวอเมริกัน 43% “พอใจ” มาตรการตอบโต้การรุกรานยูเครนของไบเดน เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 34% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ 47% ตอบว่า “ไม่พอใจ”
คะแนนนิยมโดยรวมของ ไบเดน นั้นลดลงเกือบจะแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเป็นประธานาธิบดีในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
พรรครีพับลิกันยังคงโจมตีรัฐบาล ไบเดน ว่าผ่อนคลายข้อจำกัดโควิด-19 ล่าช้าเกินไป ทั้งที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็เริ่มลดลงแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรายวันในอเมริกายังอยู่ที่ระดับเกินกว่า 2,000 คน ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในโลก
ที่มา : รอยเตอร์