สถาบันวิจัยในสหรัฐฯ ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับฐานปฏิบัติการขีปนาวุธแห่งหนึ่งของเกาหลีเหนือใกล้พรมแดนจีน โดยเชื่อว่ารัฐบาลโสมแดงอาจจะใช้มันเป็นจุดประจำการขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM)
ศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies - CSIS) ได้ออกรายงานฉบับใหม่ซึ่งอ้างอิงจากภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 21 ม.ค. บริเวณฐานยิงขีปนาวุธในเมืองโฮจุง-นี (Hoejung-ni) จังหวัดชากัง (Chagang) ของเกาหลีเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากพรมแดนจีนประมาณ 25 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเปียงยางไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 280 กิโลเมตร
“ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว ฐานปฏิบัติการขีปนาวุธโฮจุง-นีอาจจะถูกใช้เป็นที่ตั้งหน่วยทหารระดับกรม และเป็นจุดประจำการขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป... แต่หากไม่สามารถนำ ICBM มาประจำการได้ในอนาคตอันใกล้ คาดว่าพวกเขาอาจจะนำขีปนาวุธพิสัยปานกลาง (intermediate range ballistic missiles - IRBM) มาประจำการแทน” รายงานของ CSIS ระบุ พร้อมอ้างถึงกรณีที่เกาหลีเหนือนำขีปนาวุธฮวาซอง-12 ซึ่งเป็น IRBM ออกมายิงทดสอบที่จังหวัดชากังเมื่อเดือนที่แล้ว
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่เกาหลีเหนือติดตั้ง ICBM ใกล้พรมแดนจีนเช่นนี้จะทำให้ศัตรูลงมือ “โจมตีก่อน” ได้ยาก เพราะเสี่ยงที่จะไปถูกเอาดินแดนของจีนเข้า
CSIS เชื่อว่า โฮจุง-นี เป็นหนึ่งในฐานยิงขีปนาวุธประมาณ 20 แห่งที่รัฐบาลเกาหลีเหนือไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่ามีอยู่ และเพิ่งจะก่อสร้างสำเร็จได้ไม่นาน หลังจากเริ่มต้นโครงการเมื่อ 20 ปีก่อน
CSIS ย้ำว่า แม้จะยังไม่ปรากฏว่ามี ICBM ประจำการที่นี่ แต่จากภาพดาวเทียมจะเห็นได้ว่า โฮจุง-นี มีความเคลื่อนไหว และได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีตามมาตรฐานของเกาหลีเหนือ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ
เกาหลีเหนืองัดขีปนาวุธสารพัดรุ่นออกมายิงทดสอบถี่ยิบในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเปียงยางอาจจะรื้อฟื้นการทดสอบ ICBM ในอนาคตอันใกล้ ขณะที่ผู้นำ คิม จองอึน เองก็ขู่เป็นนัยๆ ว่าจะฟื้นกิจกรรมต่างๆ ที่หยุดไปตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากสหรัฐฯ “ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกใช้นโยบายก้าวร้าว”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5) สำนักข่าวรอยเตอร์ตีแผ่ข้อมูลจากรายงานลับขององค์การสหประชาชาติซึ่งระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธตลอด 1 ปีที่แล้ว และหันมาใช้ปฏิบัติการ “โจมตีทางไซเบอร์” เป็นช่องทางแสวงหารายได้ที่สำคัญ หลังถูกนานาชาติรุมคว่ำบาตรอย่างหนัก
ที่มา : รอยเตอร์