ทารกน้อยวัยเพียง 6 เดือนนั่งในที่นั่งเด็กคาร์ซีท คาดเข็มขัดนิรภัยครบครัน
ชายหนุ่มนอนหลับสบายบนเตียง
เด็กหญิงเดินเพลินๆ กับคุณแม่ ช่วงบ่ายๆ บนทางเท้าในชิคาโก
ทั้งสามถูกกระสุนลูกหลงคร่าชีวิตในเวลาห่างกันไม่กี่วัน นี่คือรูปธรรมแห่งความรุนแรงจากอาวุธปืนซึ่งส่งผลกระทบกระเทือนไม่จบไม่สิ้นทั่วสหรัฐอเมริกา ประเทศคาวบอยที่ใครๆ ก็พกปืนกันทั้งนั้น
ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีหายนะซ้ำซากจากปัญหาการครอบครองอาวุธปืนที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ ได้เกิดโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตมากมายครั้งแล้วครั้งเล่าจากกระสุนลูกหลงที่คนร้ายยิงใส่กัน ทั้งนี้ที่ว่าเรื่องน่าเศร้าเหล่านี้เป็นความรุนแรงที่สามารถจะควบคุมขนาดของการสูญเสียได้ ถ้าพวกคนหัวร้อนไม่มีปืนในครอบครอง
นอกเหนือจากที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรมพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในเมืองใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ แล้ว กลุ่มผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเพราะตกเป็นเหยื่อคมกระสุนที่ผู้ยิงไม่ได้มุ่งหมายจะเล่นงาน ก็มากมหาศาล เพียงแต่ยังไม่มีการรวบรวมสถิติกันขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราว
ความตายของเหยื่อลูกหลงสามารถจุดชนวนให้สื่อมวลชนตื่นตัวเสนอรายงานข่าวกันแบบพุ่งกระฉูด เช่นเดียวกับที่ตำรวจก็ให้ความใส่ใจแบบจริงจังในท่ามกลางแรงกดดันจากกระแสสังคม และในทำนองเดียวกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์กราดยิงสังหารหมู่ขึ้นมา สังคมอเมริกันจะเสียขวัญและสยดสยองลึกเข้าสู่ความรู้สึกรับรู้ ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่แล้ววงจรอุบาทว์เหล่านี้ก็เข้าสู่จุดจบละม้ายกัน นั่นคือความสนใจจะค่อยๆ จางคลายไปตามกาลเวลา จนกว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหม่ขึ้นมาอีก
“มันเกิดขึ้นบ่อยเหลือเกินจนเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ” กล่าวโดยคริส เฮอร์มานน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงจากอาวุธปืน แห่งวิทยาลัยกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจอห์นเจย์ (John Jay College of Criminal Justice) ในนครนิวยอร์ก พร้อมกับให้ความเห็น “ถ้าเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นในประเทศอื่น มันจะต้องเป็นข่าวพาดหัวกันหลายวัน”
ชะตากรรมดั่งผักปลา หาความปลอดภัยไม่ได้เลย หายใจอยู่ดีๆ กระสุนพุ่งปรี่เข้าเจาะกาย ตายกันง่ายสุดๆ
เมืองแอตแลนตา นครใหญ่ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ เป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์เหยื่อตายเพราะลูกหลงถี่ยิบติดกัน 2 เหตุการณ์ทีเดียวในรอบเดือนมกราคมนี้
นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ชาวอังกฤษวัย 31 ปี นาม แมตธิว วิลสัน หลับอยู่บนเตียงเมื่อวันที่ 16 มกราคม แต่ต้องสะดุ้งตื่นด้วยเสียงปืนหลายนัดจากด้านนอกอพาร์ตเมนต์ของแฟนสาว แล้วอีกไม่กี่อึดใจต่อมาก็ถูกกระสุนพุ่งเข้าตัวจนเสียชีวิต
“ยังไงก็ทำใจไม่ได้เลยว่าเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ” เคต วิลสัน ผู้เป็นพี่สาวบอกกับหนังสือพิมพ์ แอตแลนตา เจอร์นัล-คอนสติติวชั่น
ในสัปดาห์ต่อมา คุณแม่เคอร์รี เกรย์ ขับรถไปตามถนน โดยมีลูกชายแสนรัก เกรย์สัน เฟลมิ่ง-เกรย์ วัย 6 เดือนนั่งไปด้วย น้องนั่งในคาร์ซีทที่เบาะหลังโดยคุณแม่คาดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างดี คุณแม่เล่าว่า เห็นรถคันหนึ่งพุ่งมาเร็วมาก เธอรีบหลบรถเข้าจอดข้างทางให้รถคันนั้นแซงขึ้นไป ในทันทีนั้นเองมีรถอีกคันหนึ่งไล่กวดตามมาและแซงขึ้นไป พร้อมกับมีเสียงดังขึ้น ในจังหวะนั้นเห็นปืนยื่นออกจากกระจกหน้าต่างรถ
คุณแม่รีบก้าวออกจากรถไปดูแลลูกน้อยที่เบาะหลัง หัวใจของเธอสั่นระรัวเพราะเห็นน้องฟุบอยู่กับคาร์ซีท บนตักมีเลือด และมารู้ว่าน้องจากไปแล้วเมื่อเธออุ้มลูกแนบอก มือสัมผัสถึงบรรดาเศษเล็กๆ ที่ด้านหลังของศีรษะลูก
“ไม่มีแม้กระทั่งเศษกระจกแตก ไม่มีเสียงร้องอะไรเลยสักแอะค่ะ มันเกิดขึ้นเร็วมาก” เธอบอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากลูกน้อยถูกสังหารในเหตุการณ์คนร้ายขับรถไล่ล่าและยิงปืนใส่กัน โดยกระสุนลูกหลงเจาะผ่านตัวถังรถ มาคร่าชีวิตเจ้าตัวน้อยของคุณแม่อย่างที่ไม่สมด้วยเหตุผลเอาเลย
ไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เมลิซซา ออร์เตกา เด็กหญิง 8 ขวบ เดินไปตามทางเท้าในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 มกราคม มีชายคนหนึ่งพยายามยิงใส่ชายอีกคนหนึ่ง แต่คมกระสุนกลับปลิดชีพของน้องเมลิซซาแทน
“เขาพรากเอาจุดมุ่งหมายในการมีชีวิตอยู่ของฉันไปด้วย พลังที่ทำให้ฉันลุกขึ้นจากที่นอนทุกๆ วันถูกทำลายไปแล้ว เขาพรากเอาชีวิตที่เต็มไปด้วยความใฝ่ฝันไปหมดสิ้นค่ะ” อราเซลี ลีอาโนส คุณแม่ของเด็กหญิง บอกกับสถานีโทรทัศน์ยูนิวิชั่น ทีวี เป็นภาษาสเปน
ทั้งเอฟบีไอ (สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ) และซีดีซี (ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ) ต่างบอกว่า ยังไม่ได้เริ่มเก็บสถิติตัวเลขเกี่ยวกับการเสียชีวิตจากกระสุนลูกหลงในสหรัฐฯ ประเทศที่มีคนตายไปปีละประมาณ 40,000 คนจากอาวุธปืน โดยเกินกว่าครึ่งหนึ่งเกิดจากการฆ่าตัวตาย
“เมื่อเกิดการยิงกันเพิ่มขึ้น 10% เหยื่อลูกหลงก็ถูกยิงเพิ่มขึ้นมา 10% เหมือนกัน”
ในสถิติของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ มีการจำแนกระหว่างการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ และการเสียชีวิตโดยเจตนา ทว่าไม่ได้มีการแยกแยะลงรายละเอียดไปกว่านั้น
เฮอร์มานน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงจากอาวุธปืน ประมาณการว่า การถูกสังหารจากกระสุนลูกหลงมีจำนวนคิดเป็นประมาณ 1-2% ของการเสียชีวิตจากอาวุธปืนทั้งหมดโดยรวม รวมทั้งเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปตามตัวเลขรวมของเหตุการณ์ยิงกัน
“เมื่อเกิดการยิงกันเพิ่มขึ้น 10% เราก็จะได้เห็นเป้าหมายที่คนยิงไม่เจตนาจะเล่นงานถูกยิงเพิ่มขึ้นมา 10% เหมือนกัน” เขาอธิบาย พร้อมกับรำพึงว่า คำว่า “เป้าหมาย” ในภาษาศัพท์แสงของทางการนั้นทำให้มองข้อความจริงที่ว่า นี่เป็นเรื่องของชีวิตและเลือดเนื้อมนุษย์
ปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนของอเมริกาพุ่งพรวดขึ้นมาตั้งแต่มีการเดินขบวนต่อต้านมาตรการควบคุมโรคระบาดใหญ่ และการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางสีผิวในปี 2020 และในช่วงเข้าสู่สิ้นปี 2021 ปรากฏว่าเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น ฟิลาเดลเฟีย ออสติน โคลัมบัส และอินเดียแนโพลิส ต่างรายงานว่า จำนวนเหตุฆาตกรรมในรอบปีทะยานทำลายสถิติ
ถึงแม้จำนวนการฆ่ากันตายทั่วอเมริกาในปัจจุบันนี้ยังต่ำกว่าช่วงรุนแรงทะยานโด่งทะลุฟ้าในทศวรรษ 1980 และทศวรรษ 1990 แต่อัตราเพิ่มซึ่งเกิดขึ้นในปี 2020 ก็อยู่ในระดับที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อนตั้งแต่ที่สหรัฐฯ เริ่มบันทึกสถิติในเรื่องนี้เมื่อปี 1960
ในการนี้ มีความประจวบเหมาะแฝงอยู่ กล่าวคือ ยอดขายอาวุธปืนก็สร้างสถิติใหม่ในปี 2020 เช่นกัน โดยอยู่ที่เกือบๆ 23 ล้านกระบอก แถมยังติดตามมาด้วยยอดอีกเกือบๆ 20 ล้านกระบอกที่ถูกขายไปสู่มือผู้คนในปี 2021 ทั้งนี้เป็นตัวเลขของบริษัทที่ปรึกษาด้านอาวุธปืนเล็ก สมอลล์ อาร์มส์ อะนาลิติกส์ แอนด์ ฟอร์แคสติ้ง (Small Arms Analytics & Forecasting)
อาวุธเหล่านี้จำนวนหลายล้านกระบอกตกมาอยู่ในมือของผู้ที่เพิ่งครอบครองปืนเป็นครั้งแรกในชีวิต และเป็นกลุ่มคนเหล่านี้ที่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าอาจไม่ได้รับการฝึกอบรมเรื่องความปลอดภัยในการใช้ปืนอย่างเพียงพอ
“การมีคนขาดประสบการณ์จำนวนมากๆ มาถือปืน มันจะตามมาด้วยความหายนะเสมอมา” เป็นคำกล่าวของ ปีเตอร์ สไควร์ส อาจารย์ด้านอาชญวิทยา ของมหาวิทยาลัยไบรตัน ในอังกฤษ
อาวุธที่ทะลักทลายออกมามหาศาลเช่นนี้ ยังอาจหมายถึงมีการยิงปืนขึ้นฟ้ากันอย่างครึกครื้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล หรือโอกาสพิเศษต่างๆ
“แต่ลูกกระสุนน่ะ มันต้องตกกลับลงมา และบ่อยครั้งทีเดียวมันไปโดนคนซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซึ่งอาจอยู่ไกลจากจุดยิงปืนตั้งไมล์นึง” อาจารย์ชี้ประเด็นไว้อย่างนี้
ต้องตระหนักให้ดีเลยว่า ลูกกระสุนที่เจตนาลั่นใส่ใครบางคนนั่นแหละที่ทำให้เกิดเหยื่อลูกหลงเป็นจำนวนมาก
“กระสุนเจาะเข้าหัวลูกฉัน”
ทิฟฟานี อีแวนส์ วัย 34 ปี อยู่ที่ด้านนอกบ้านญาติในรัฐแมริแลนด์ ไม่ห่างจากกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของประเทศเท่าใดนัก เธอปลื้มปริ่มกับดินเนอร์ในค่ำคืนที่อากาศอุ่นสบายปลายเดือนสิงหาคม 2021 นั่นเป็นเวลาที่ น้องเพย์ตัน ลูกชายของเธอเจอกระสุนลูกหลงพุ่งใส่ และเสียชีวิตทันที
เด็กชายวัย 8 ขวบที่เป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลตัวน้อย อยู่ข้างในบ้านหลังดังกล่าว รับประทานอาหารพร้อมเล่นเกมวิดีโอไปด้วย ตอนที่เกิดเหตุยิงกันขึ้นมาระหว่างคู่อริที่ตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรง และไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับกับหนุ่มน้อยผู้นี้เลย เพียงแค่กระสุนพุ่งทะลุบานประตูกระจก เจาะเข้าศีรษะของน้องแบบเป๊ะอย่างน่าปวดร้าวใจ
“ลูกชายฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะ หัวห้อยตกลงมา มีกระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าไปในหัวเค้า” คุณแม่ทิฟฟานีบอก ขณะเล่าย้อนถึงตอนที่เธอวิ่งเข้าไปดูอาการลูก
เธอมองว่าความรุนแรงชนิดนี้มีต้นตอมาจากปัญหาต่างๆ พัวพันกันเป็นชุด โดยนอกเหนือจากการมีอาวุธปืนเถื่อนผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมาจากการขาดไร้ทรัพยากรของภาครัฐเพื่อคอยดูแลผู้คนอายุน้อยๆ ให้อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และการที่พ่อแม่ผู้ปกครองบกพร่องล้มเหลวไม่ได้สอนลูกหลานให้ตระหนักถึงคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์
“มีปืนเถื่อนผิดกฎหมายมากมายเกินไปแล้ว” เธอกล่าว “เราต้องจัดการควบคุมกันเสียที รัฐบาลต้องจัดการควบคุมกันเสียทีค่ะ”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : เอเอฟพี นิวยอร์กโพสต์ เอเจซีดอทคอม)