MGR Online - ตำรวจ PCT บุกรวบหนุ่มหัวใสไม่ถูกเรื่อง ลงขายปืนเถื่อนทางออนไลน์ผ่านแอป QB Thailand ยึดของกลางปืนไทยประดิษฐ์ 6 กระบอก เครื่องกระสุน อุปกรณ์ผลิตหลายรายการ เช็กประวัติมีหมายจับคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนอีก 2 หมาย
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ., พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. และ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ร่วมแถลงผลการจับกุม นายกฤษดา สงวนนามสกุล มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 65 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล สืบสวนทราบว่า นายกฤษดา มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ “QB Thailand” และ “เศษเหล็กกิโลละแสน” เพื่อชักชวนให้ผู้สนใจเข้าซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และจัดส่งสินค้าอาวุธปืนผิดกฎหมายผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT และ นครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 42/50 ซ.หมู่บ้านจามจุรี ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนจริงและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 6 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ตลอดจนอุปกรณ์ในการผลิตปืนกว่า 17 รายการ
“”หลังการจับกุม พบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลเดียวกันกับคนร้ายที่เมื่อปี 63 ขณะมีภูมิลำเนาอยู่ที่หนองบัวลำภู ได้ก่อเหตุขับรถยนต์หรูแหกด่านเคอร์ฟิวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ต่อมารถคันดังกล่าวได้เสียหลักชนแบริเออร์ข้างทาง ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ แต่คนร้ายได้ทิ้งรถหลบหนี ต่อมาตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมเครื่องกระสุนในรถคันเกิดเหตุ ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์สวมทะเบียนปลอม“” รอง ผบ.ตร.ระบุ
ทั้งนี้ ชุดจับกุมยังตรวจสอบพบอีกว่า มีหมายจับของศาลจังหวัดเลย ที่ 82/2563 ลง 27 เม.ย. 63 ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนผิดมือ และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” และหมายจับของศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ จ.115/64 ลง 16 ส.ค. 64 ในความผิดฐานเดียวกัน
ผอ. PCT กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้ จะได้แจ้ง ปปง. ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 หรือ บช.สอท. 1441 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th