xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ ส่งสัญญาณกดดันมาตรการคว่ำบาตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 7 ในเดือนนี้ และถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับจากปี 2017 คาดเป็นขีปนาวุธพิสัยปานกลาง และมีเป้าหมายเพื่อกดดันทั้งจีนและอเมริกาเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตร

ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้รายงานในวันอาทิตย์ (30 ม.ค.) ว่าเมื่อเวลา 7.52 น. เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธทิ้งตัว 1 ลูก จากจังหวัดจากัง ไปยังนอกชายฝั่งด้านตะวันออก

สภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ที่ประชุมฉุกเฉินโดยมีประธานาธิบดีมุน แจ-อินเป็นประธาน ระบุว่า การทดสอบดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธพิสัยปานกลาง (ไอบีอาร์เอ็ม) ที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบมาตั้งแต่ปี 2017

มุนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดเท่ากับว่า เกาหลีเหนือใกล้ที่จะยุติมาตรการระงับการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ และเสริมว่า การทดสอบขีปนาวุธหลายระลอกในเดือนนี้คล้ายกับที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2017 ที่เปียงยางทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธที่ยิงข้ามญี่ปุ่น

คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ปฏิบัติตามมาตรการระงับการทดสอบอีกต่อไป โดยมาตรการดังกล่าวประกาศเมื่อปี 2018 ขณะที่มีความพยายามทางการทูตและการประชุมสุดยอดกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในขณะนั้น และในเดือนนี้คิมยังประกาศว่า จะกลับมาทดสอบอาวุธอีกครั้งเนื่องจากอเมริกาและพันธมิตรไม่มีทีท่าจะยุตินโยบายปรปักษ์

ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ และฮิโรคาสึ มัตซูโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ต่างแถลงว่า ขีปนาวุธลูกล่าสุดทะยานขึ้นสู่ระดับความสูงถึง 2,000 กิโลเมตร และไปได้ไกล 800 กิโลเมตรในเวลา 30 นาที ทั้งนี้ ปกติแล้วไออาร์บีเอ็มจะยิงได้ไกล 900-5,600 กิโลเมตร ส่วนไอซีบีเอ็ม 5,600 กิโลเมตรขึ้นไป

จอร์จ วิลเลียม เฮอร์เบิร์ต ศาสตราจารย์วุฒิคุณของศูนย์เพื่อการงดการแพร่กระจายอาวุธและที่ปรึกษาด้านขีปนาวุธ ทวิตว่า ไม่ว่าจะเป็นไออาร์บีเอ็มหรือไอซีบีเอ็ม การทดสอบครั้งล่าสุดของเปียงยางถือเป็นขีปนาวุธเชิงกลยุทธ์และไม่ใช่แบบเดียวกับที่ทดสอบ 6 ครั้งล่าสุดในเดือนนี้ ซึ่งอาจถือเป็นเดือนที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธมากที่สุด ที่รวมถึงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ 2 ลูกและหัวรบเมื่อวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) และระบบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลในวันอังคาร (25 ม.ค.)

การทดสอบครั้งนี้ยังมีขึ้นก่อนพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเปียงยางระบุว่า ไม่ได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมเนื่องจากการระบาดของโควิดและ “กองกำลังศัตรู”

อุ๊ก หยาง นักวิจัยของศูนย์เพื่อนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติ เชื่อว่า คิมระดมทดสอบอาวุธเพราะต้องการกดดันทั้งอเมริกาและจีนเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตร

การทดสอบของเปียงยางยังอาจเป็นตะปูตัวสุดท้ายตอกฝาโลงความพยายามผลักดันข้อตกลงสันติภาพกับเกาหลีเหนือของมุนก่อนอำลาตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม

ทั้งนี้ ในการปราศรัยก่อนขึ้นปีใหม่ คิมเรียกร้องให้ปรับปรุงกองทัพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ในขณะที่การเจรจากับเกาหลีใต้และอเมริกาชะงักงัน และนับจากนั้น เกาหลีเหนือระดมทดสอบอาวุธหลายประเภท จากหลายสถานที่ และด้วยระบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

จังหวัดจากังเป็นสถานที่ทดสอบ 2 ครั้งในเดือนนี้ ซึ่งเปียงยางระบุว่าเป็นขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่มีความเร็วเหนือเสียงและสามารถบินหลบหลีกในความสูงระดับต่ำ แต่การทดสอบเมื่อวันอาทิตย์ไปได้ไกลกว่าและสูงกว่าการทดสอบครั้งก่อนๆ

ตั้งแต่ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล จนถึงขีปนาวุธที่ยิงจากรถไฟและสนามบิน การทดสอบเหล่านี้ตอกย้ำว่า คลังแสงของเปียงยางเติบโตและรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ขณะที่การเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์หยุดนิ่ง

ลีฟ-อิริก อีสลีย์ ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอีฮวาในโซล ชี้ว่า ระบอบคิมได้ยินโลกภายนอกพูดกันเรื่องความอ่อนแอภายในเกาหลีเหนือ และเห็นเกาหลีใต้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงต้องการเตือนวอชิงตันและโซลว่า การโค่นล้มตนเองไม่ใช่เรื่องง่าย

เปียงยางปกป้องโครงการทดสอบอาวุธ ว่าเป็นสิทธิในการป้องกันตนเอง และไม่ได้มีเป้าหมายที่ประเทศใดๆ แต่อเมริกาและเกาหลีใต้ต่างหากที่ดำเนินนโยบายเป็นปฏิปักษ์
กำลังโหลดความคิดเห็น