ราคาน้ำมันขยับลงและวอลล์สตรีทปิดลบในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) ตลาดยังมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจกระชับนโยบายการเงินเร็วๆ นี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังดอลลาร์แข็งค่า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 74 เซนต์ ปิดที่ 86.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 62 เซนต์ ปิดที่ 89.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้ในวันพุธ (26 ม.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับตะวันตก รวมถึงภัยคุกคามจากกบฏฮูตีในเยเมนที่มีต่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้นธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม และมีแผนยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
คำแถลงดังกล่าวผลักให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับบรรดาผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ และในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) ดอลลาร์พุ่งทะยานต่อเนื่อง แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นยังฉุดให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) ขยับลงแรง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 36.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,793.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดในแดนลบ ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เมินข้อมูลที่เผยให้เห็นว่าเศรษฐกิจของอเมริกาเติบโตในอัตราร้อนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษเมื่อปีที่แล้ว
ดาวโจนส์ ลดลง 7.31 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,160.78 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.42 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,326.51 จุด แนสแดค ลดลง 189.34 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,352.78 จุด
วอลล์สสตรีทดิ่งลงต่อเนื่อง หลังเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณเมื่อวันพุธ (26 ม.ค.) ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ตลาดแกว่งตัวขึ้นมาเล็กน้อยและปิดลบในกรอบแคบๆ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลในวันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) พบว่าเศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 5.7% ในปี 2021 ถือเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)
