หนึ่งปีหลังจากพวกผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้กำลังบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ มีชาวอเมริกัน 6 ใน 10 คนทีเดียวที่เชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยของประเทศตกอยู่ในอันตรายถึงขนาดอาจพังครืนได้ ผลโพลที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธ (12 ม.ค.) ระบุ
76% ของผู้ตอบคำถามในการสำรวจความคิดเห็นที่กระทำโดยมหาวิทยาลัยควินนิเพียค (Quinnipiac University) คราวนี้ บอกว่าพวกเขาคิดว่าภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่มีอันตรายมากกว่าภัยคุกคามที่มาจากต่างประเทศ
เวลาเดียวกัน ผู้แสดงความเห็นเกินกว่าครึ่ง –58%-- ในโพลนี้ บอกว่าพวกเขาคิดว่าประชาธิปไตยของประเทศกำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะพังครืนลงมา โดยที่มี 37% กล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน มี 53% ระบุว่า พวกเขาคาดหมายว่าความแตกแยกทางการเมืองในสหรัฐฯ จะเลวร้ายลงไปอีกในช่วงชีวิตของพวกเขา
สำหรับคำถามที่ว่า คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์โจมตีในสหรัฐฯ ทำนองเดียวกับการบุกรัฐสภาขึ้นอีกหรือไม่ ปรากฏว่ามี 53% เลือกตอบว่า มีความเป็นไปได้มากๆ หรือมีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน
เวลานี้คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กำลังสอบสวนเหตุการณ์บุกถล่มรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 กันอยู่ โดยผู้ออกความเห็นในโพลนี้ 61% บอกว่าพวกเขาสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนนี้ แต่ถ้าแบ่งผู้ตอบคำถามตามความฝักใฝ่ทางการเมืองของแต่ละคนแล้ว สิ่งที่ออกมาก็คือ พวกเดโมแครต 83% เห็นชอบกับเรื่องนี้ แต่พวกรีพับลิกัน 60% คัดค้าน
โพลนี้ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อมีผู้ตอบคำถามแค่ 33% เท่านั้นที่บอกว่าพวกเขาเห็นชอบยอมรับผลงานของเขา โดย 53% กล่าวว่าไม่ยอมรับ ส่วนอีก 13% ไม่มีความเห็น
ในโพลของควินนิเพียคเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไบเดนได้รับคะแนนการยอมรับผลงานสูงกว่านี้ คือ 38%
ควินนิเพียคแถลงว่า การสำรวจคราวนี้ใช้ตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ทั่วประเทศจำนวน 1,313 คน โดยดำเนินการสอบถามระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม และคะแนนความผิดพลาดคลาดเคลื่อนซึ่งอาจเกิดขึ้นได้อยู่ที่ บวกหรือลบ 2.7%
(ที่มา : เอเอฟพี)