โครงการโคแว็กซ์ ซึ่งมีเป้าหมายมอบการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมทั่วโลก พุ่งถึงหลักหมายสำคัญเมื่อวันเสาร์ (15 ม.ค.) ส่งมอบวัคซีนทะลุ 1,000 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม หนึ่งวันก่อนหน้านี้ทางยูนิเซฟออกมาเผยว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ประเทศยากจนหลายประเทศต้องทิ้งวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดสที่แจกจ่ายและสนับสนุนโดยโครงการโคแว็กซ์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากวัคซีนใกล้วันหมดอายุ
องค์การอนามัยโลก ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (Gavi the Vaccine Alliance) และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด จัดตั้งโครงการโคแว็กซ์ขึ้นมาในปี 2020 เพื่อรับประกันว่าบรรดาประเทศยากจนทั้งหลายจะสามารถเข้าถึงวัคซีนที่จำเป็นสำหรับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่
"โคแว็กซ์ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 หนึ่งพันล้านโดสแรกแก่ประเทศและดินแดนต่างๆ 144 แห่งทั่วโลก" เซธ เบอร์คลีย์ ซีอีโอของกาวีเขียนบนทวิตเตอร์ "มันคือหลักชัยสำคัญในโครงการกระจายวัคซีนทั่้วโลกครั้งใหญ่ที่สุดและรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์"
เบอร์คลีย์ กล่าวว่า ครั้งที่เครื่องบินบรรทุกวัคซีนโดสที่ 1,000 ล้าน ลงแตะในกรุงคิกาลี เมืองหลวงของรวันดาในช่วงเย็นวันเสาร์ (15 ม.ค.) "ผมรู้สึกภูมิใจ แต่ก็ยังถ่อมตัว ด้วยที่รู้ว่าเราจำเป็นต้องเดินหน้าไปอีกไกลแค่ไหนเพื่อปกป้องทุกคนและคลี่คลายปัญหาความไม่เท่าเทียมทางวัคซีน"
โครงการโคแว็กซ์สามารถส่งมอบวัคซีนแตะระดับ 1,000 ล้านโดส ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี หลังจากส่งมอบวัคซีนโดสแรกให้แก่กานา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน
ทุกประเทศได้รับอนุญาตให้สั่งซื้อวัคซีนผ่านโครงการนี้ แต่บรรดาประเทศที่มีรายได้ต่ำจะได้รับวัคซีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
เบอร์คลีย์ ระบุในถ้อยแถลงว่า เขารู้สึกภูมิใจที่เกือบ 90% ของวัคซีนโคแว็กซ์ 1,000 ล้านโดสแรก เป็นการส่งมอบให้แก่บรรดาประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางระดับล่าง
อย่างไรก็ตาม แม้การส่งมอบวัคซีนทะลุ 1,000 ล้านโดสเป็นเรื่องน่าประทับใจ แต่โครงการโคแว็กซ์ยังห่างไกลจากเป้าหมายเดิมที่หวังส่งมอบวัคซีน 2,000 ล้านโดสภายในช่วงสิ้นปี 2021
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโครงการนี้ถูกบีบให้ต้องแข่งขันกับบรรดาประเทศร่ำรวย ที่พร้อมจ่ายเงินในราคาที่สูงกว่าเพื่อกักตุนวัคซีนสำหรับฉีดให้ประชาชนของตนเอง
ในถ้อยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ในขณะที่ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 9,400 ล้านโดส แต่ประชาชนในทวีปแอฟริกามากถึง 85% ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการปล่อยให้โควิด-19 แพร่ระบาดโดยไม่อ่อนแรงลงในบางพื้นที่ เพิ่มความเสี่ยงอย่างมากของโอกาสเกิดตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆ ที่อาจอันตรายยิ่งกว่าเดิม
องค์การอนามัยโลกระบุในช่วงปลายเดือนที่แล้ว ว่า ในบรรดารัฐสมาชิกทั้งหมด 194 รัฐ เกือบครึ่งหนึ่งพลาดเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 40% ของประชากรภายในสิ้นปี 2021 พร้อมเรียกร้องประเทศต่างๆ เพิ่มความพยายามอีกเท่าตัวเพื่อรับประกันว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ 2 นั่นคือฉีดวัคซีนประชากรให้ได้เกิน 70% ในช่วงกลางปี 2022
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงความไม่สมดุลด้านการกระจายวัคซีนยิ่งมากขึ้นไปอีก เนื่องจากเวลานี้หลายประเทศกำลังเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ตอบสนองต่อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก
คำแถลงส่งมอบวัคซีนทะลุ 1,000 ล้านโดสของโคแว็กซ์ มีขึ้น 2 วันหลังจากเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟรายหนึ่งเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) เมื่อเดือนที่แล้ว บรรดาประเทศยากจนได้ปฏิเสธวัคซีนโควิด-19 ที่แจกจ่ายโดยโครงการโคแว็กซ์ มากกว่า 100 ล้านโดส สืบเนื่องจากใกล้หมดอายุแล้ว
ตัวเลขมหาศาลของวัคซีนที่ถูกปฏิเสธ แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในความพยายามฉีดวัคซีนแก่คนทั่วโลก แม้อุปทานวัคซีนจะมีเพิ่มมากขึ้นแล้วในเวลานี้
เอตเลวา คาดิลลี ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหาของยูนิเซฟ กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภายุโรปว่า วัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดสถูกปฏิเสธเฉพาะในเดือนธันวาคมเดือนเดียว ซึ่งเหตุผลหลักของการปฏิเสธ คือการส่งมอบวัคซีนที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น จนไม่สามารถใช้ได้ทันเวลา
ในเวลาต่อมา โฆษกของยูนิเซฟ เผยว่าในบรรดาวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดสที่ถูกปฏิเสธ ดูเหมือนมีถึง 15.5 ล้านโดสที่ต้องทำลาย ขณะที่บางล็อตถูกปฏิเสธโดยมากมายหลายประเทศ
ยูนิเซฟไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับยอดรวมวัคซีนทั้งหมดที่ถูกปฏิเสธจนถึงตอนนี้ นอกเหนือจากจำนวนที่ถูกปฏิเสธในเดือนธันวาคม
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งขององค์การอนามัยโลกระบุในเดือนที่แล้ว ว่า วัคซีนที่บริจาคโดยเหล่าประเทศร่ำรวยนั้นมีอายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น และนั่นคือ "ปัญหาสำคัญของ" โครงการโคแว็กซ์
นอกจากนี้ ประเทศยากจนยังประสบปัญหาความล่าช้าในการกระจายวัคซีนด้วย เพราะพวกเขาไม่มีสถานที่จัดเก็บเพียงพอ รวมถึงขาดแคลนตู้เย็นที่มีอุณหภูมิเหมาะกับการเก็บรักษาวัคซีน ซึ่งการลงทุนของโคแว็กซ์ในเรื่องนี้ประสบปัญหาล่าช้ามานานหลายเดือนแล้ว
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)