สงบงาม ทรหด รู้บทบาทหน้าที่ มีน้ำใจต่อประชาชน คือเสน่ห์ลึกซึ้งของ “แคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” หรือ “ดัชเชสเคท” ผู้งามวัยครบ 40 กะรัตเมื่อ 9 มกราคม 2022 ตลอดที่ผ่านมา ความนิยมที่ดัชเชสเคทได้รับจากสาธารณชนพุ่งสูงเคียงคู่กับเจ้าชายวิลเลียม กษัตริย์ในอนาคตของสหราชอาณาจักร
นับแต่ที่ได้เข้าเป็นสะใภ้หลวงในปี 2011 ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ถูกผันแปรออกจากสถานภาพสามัญชนคนสวยสดใส ไปสู่ความเป็นสมาชิกราชตระกูลวินเซอร์ตามหัวโขนแห่งพระชายาของเจ้าชายวิลเลียม ในแต่ละปีที่เคลื่อนผ่าน ดัชเชสได้รับความชื่นชมรักใคร่จากสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่ป๊อปปูลาร์มากที่สุด โดยเป็นอานิสงส์จากการวางตัวได้งดงาม ให้เกียรติผู้อื่น อบอุ่น สุภาพ ไม่มากไปไม่น้อยเกิน ภาพลักษณ์ของดัชเชสเคท คือ สิบเต็มสิบ-ไม่หัก เกื้อกูลราชบัลลังก์เป็นที่ยิ่ง
กว่า 11 ปีผ่านไปไวเหมือนความฝัน คุณลักษณ์ของดัชเชสเคทพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยสารพัดเหตุและปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์วิกฤตร้ายแรงแห่งโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่อาละวาดดุเดือดไปทั่วพิภพและทำร้ายประเทศอังกฤษจนบอบช้ำสุดแสน ดัชเชสเคทได้โดยเสด็จเจ้าชายวิลเลียมในการรับพระบรมราโชบายมาดำเนินการสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในด้านการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนผ่านหลากหลายช่องทาง
เพราะ‘มาร’มี บารมีจึงปรากฏ
พสกนิกรในสหราชอาณาจักรได้ชื่นใจติดตามชมเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคทพบปะพูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานสาธารณสุขด่านหน้าซึ่งเหนื่อยหนักพร้อมเสี่ยงชีวิตในการรับมือกับวิกฤตโคโรนาไวรัส 19 ผ่านช่องทางโทรทัศน์และสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนออกเยี่ยมไปตามโรงพยาบาลต่างๆ
ในการนี้ มีการไถ่ถามสถานการณ์และความก้าวหน้าของการดำเนินงานบ้าง มีการพูดคุยเพื่อโปรโมทให้ประชาชนจริงจังที่จะป้องกันตนเองจากความเสี่ยงติดเชื้อบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยอมสวมหน้ากากอนามัยและร่วมกันเฝ้าระวังตลอดศักราช 2021 ไปจนถึงการขอบคุณและให้กำลังใจ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ล้วนอ่อนล้าเหนื่อยหนักจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างหักโหมเนิ่นนานโดยไม่ย่อท้อที่จะต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมหาศาล
ยิ่งกว่านั้น ดัชเชสเคทมอบความสุขในเทศกาลคริสต์มาสแก่ประชาชน ด้วยเซอร์ไพรสน่ารัก คือ บรรเลงเปียโนคลอไปกับเสียงขับขานดนตรีของ ทอม วอล์กเกอร์ นักร้องนักแต่งเพลงระลึกถึงผู้ที่จากไปเพราะโรคไวรัสร้ายโควิด-19 “แด่ผู้ที่ไม่ได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่” หรือ For Those Who Can’t Be Here ในคอนเสิร์ตคริสต์มาสแครอล เมื่อธันวาคมที่ผ่านมา
เอเอฟพีรายงานว่าดัชเชสเคทแอบฝึกซ้อมเปียโนเพื่อให้การร่วมแสดงคอนเสิร์ตที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ เป็นของขวัญพิเศษแด่ทุกท่านที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในยุคยามที่ถูกโควิด-19 โจมตีหนักหนากระทั่งว่ายอดสะสมผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นไปกว่า 150,000 รายนับจากต้นปี 2020
ในโอกาสที่ได้ร่วมงานกับดัชเชสเคท วอล์กเกอร์ผู้เป็นศิลปินนักร้องคนดังเผยความประทับใจว่า
“เธอเลอเลิศสมบูรณ์จริงๆ เธอได้ใจผู้ชมแบบสุดยอดครับ เป็นคนที่อ่อนหวาน จิตใจอบอุ่น เมตตา แล้วก็มากด้วยฝีมือ”
ทอม วอล์กเกอร์ เป็นขวัญใจคนอังกฤษและไอดอลของชาวโลกในความลึกซึ้งของหลายๆ บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นมาได้โดนใจสุดๆ ในสายตาของเขา ดัชเชสเคทวางตัวสบายๆ กับทุกคน และให้เกียรติผู้อื่นดีมาก
สองปีที่ผ่านมา รับบทบาทในทางสาธารณะมากขึ้น
นับแต่ช่วงเริ่มต้นวิกฤตโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นต้นมา ดัชเชสเคทและเจ้าชายวิลเลียมแสดงบทบาทในทางสาธารณะมากขึ้นกว่าที่เคย ทั้งในทางส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในวงการสาธารณสุขที่เสียสละต่อสู้กับภัยพิบัติโรคระบาด และทั้งการเต็มใจเต็มที่กับกิจกรรมสร้างสรรค์โดยร่วมพูดคุยออกอากาศ เพื่อแชร์ไปยังประชาชนว่าได้ดูแลพระโอรสพระธิดาอย่างไรบ้างในช่วงที่อังกฤษต้องล็อกดาวน์ประเทศ อาทิ ทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือลูก และเป็นช่างตัดผมประจำครอบครัว ซึ่งดัชเชสแซวตนเองออกสื่อว่า ลูกๆ ผวากันทีเดียว
เอเอฟพีเปิดประเด็นไว้อย่างนั้น พร้อมเล่าถึงมุมมองดีๆ ของดัชเชสต่อชีวิตครอบครัวช่วงล็อกดาวน์ว่า เป็นวันเวลาที่มีความสุขมากเพราะทุกคนในครอบครัวได้ใกล้ชิดกัน
นอกจากนั้น เมื่อรัฐบาลคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรค ดัชเชสก็ได้แสดงบทบาทในภารกิจทางการต่างๆ โดยมีวาระเด่นคือ ในโอกาสที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดจี-7 ดัชเชสเคทผู้มีภาพลักษณ์ดีงาม เป็นที่ชื่นชมของชาวโลก ได้ถวายงานรับใช้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในการช่วยต้อนรับผู้นำชาติสมาชิก
ทั้งนี้ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และมีภารกิจดีๆ ร่วมกับ ดร.จิลล์ ไบเดน ภริยาของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โดยเชิญดร.ไบเดนไปเยี่ยมชมคุณภาพการเรียนการสอนนักเรียนชั้นอนุบาลของสถาบันการศึกษาคอนเนอร์ ดาวน์ส อาคาเดมี ที่เวสต์ คอร์นวอลล์ เพื่อโปรโมทความสำคัญของการศึกษาชั้นอนุบาล
กว่าสิบปีที่ผ่านมา ดัชเชสผู้เป็นคุณแม่ลูกสามได้ทุ่มเทให้กับการส่งเสริมการศึกษาสำหรับนักเรียน เพื่อสนับสนุนให้เด็กๆ เติบโตขึ้นมาภายในความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตใจและอารมณ์ ส่วนเจ้าชายวิลเลียมทำงานด้านสังคมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมด้านสุขภาพจิต กับการปกป้องสิ่งแวดล้อม
มีความทรหด ฟื้นตัวไว และแสนสุภาพ
อดีตเลขานุการส่วนตัวของดัชเชสเคทและเจ้าชายวิลเลียม เจมี โลว์เทอร์-พินเคอร์ตัน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์เกี่ยวกับดัชเชสว่า เสน่ห์ที่สำคัญของดัชเชสเคท คือ เธอสุภาพ ติดดิน และสงบงาม
ในยามที่สนทนากับผู้คน ดัชเชสเคทจะใส่ใจรับฟัง อดีตเลขานุการส่วนตัวบอกอย่างนั้นต่อนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องราวที่เอพีนำเสนอเกี่ยวกับ“น้ำใจ”งดงามของดัชเชส ในคราวไปเยี่ยมสถานพักพิงสำหรับเด็กที่เจ็บป่วยรุนแรง นามว่า East Anglia’s Children’s Hospices (EACH) ในปี 2019 โดยคุณพ่อคุณแม่ของเด็กที่เพิ่งเสียชีวิตหลังจากพักพิงอยู่กับ EACH มาระยะหนึ่ง ได้ขอโอกาสสนทนากับดัชเชสซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์ EACH และดัชเชสก็ตอบรับด้วยดี
เทรซี เรนนี ผู้บริหารระดับสูงของ EACH เล่าว่าเป็นการสนทนาที่ชุบชูใจคุณพ่อคุณแม่ของน้องอย่างที่สุด โดยมีบางช่วงที่ได้หัวเราะเอ็นดูเกร็ดชีวิตของน้อง คุณพ่อคุณแม่น้องรู้สึกดีใจที่ได้รับเกียรติ และประทับใจในความเป็น“คนธรรมดา”ของดัชเชส ทั้งสองบอกว่ารู้สึกได้เลยว่าดัชเชสใส่ใจจริงๆ
เจมี โลว์เทอร์-พินเคอร์ตัน ชี้ด้วยว่าดัชเชสเคทมีคุณลักษณ์สำคัญที่ละม้ายสมเด็จพระราชชนนีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรหดฟื้นตัวไวของประเทศอังกฤษช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“ดัชเชสเคทแกร่งครับ เธอมีประพิมประพายของความทรหดฟื้นตัวไวแบบสมเด็จพระราชชนนีอยู่ในตัวเธอ เราจึงได้เห็นกันหลายครั้งว่าเมื่อมีเรื่องต่างๆ ที่ต้องถูกดำเนินการให้เรียบร้อย เธอจะอยู่ตรงนั้น ทำทุกสิ่งอย่างจนลุล่วง” เจมีเล่าแบบผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
เป็นสามัญชนผู้มีชีวิตดั่งเทพนิยายก่อนจะได้เสกสมรสกับเจ้าชายรัชทายาทขนานแท้
ดัชเชสเคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ในอดีตคือ เคท มิดเดิลตัน สุภาพสตรีรูปโฉมงาม การศึกษาสูง ภูมิหลังทางบ้านมั่นคงในความเป็นชนชั้นกลางฐานะดี เคทเรียนหนังสือที่มาร์โบโร คอลเลจ โรงเรียนค่าเทอมแพง ก่อนจะเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ สกอตแลนด์ ในปี 2001
ตั้งแต่ปีการศึกษาที่หนึ่ง ก็ได้รู้จักคบหากับเจ้าชายวิลเลียมในฐานะเพื่อน ต่อมาจึงร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน เช่าอพาร์ตเมนต์เป็นบ้านอยู่ด้วยกัน โดยเจ้าชายวิลเลียมมักที่จะทำอาหารให้เคททานแทบจะทุกวัน จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2004 จึงคบหากันอย่างคู่รักแสนสวีต โดยถูกแอบถ่ายภาพขณะจูบกันในระหว่างทริปที่ไปเล่นสกีในสวิตเซอร์แลนด์
เคทคนสวย สดใส สำเร็จการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ศิลป์ในปี 2005 และยังคบหาเป็นแม่ยอดยาหยีกับเจ้าชายวิลเลียม จนกระทั่งยุติความสัมพันธ์ในปี 2007 นานสองสามเดือน ประมาณว่าผู้ชายราศีเมถุน คนธาตุลม หวงแหนอิสรภาพอย่างเจ้าชายวิลเลียม อยากจะถามใจตนเองให้ชัดเจนว่ารักเคทมากมายเพียงใด
หนุ่มหล่อสาวสวยกลับมาคืนดีกัน รักกันยิ่งกว่าเดิม ในปี 2010 เจ้าชายวิลเลียมในฐานะนายทหารแห่งกองทัพอากาศอังกฤษต้องไปฝึกอบรมนักบินค้นหาและช่วยชีวิตในเวลส์ โดยเคทยอมย้ายไปใช้ชีวิตคู่รักกับเจ้าชายโฉมงาม ในช่วงปีนี้ เจ้าชายผู้ทรงหล่อเลือกได้เข้าสู่อาการลังเลอีกครา โดยเจ้าชายวิลเลียมพกแหวนแซฟไฟร์แสนงามและแสนแพง มรดกของราชตระกูลติดเป้หิ้วไปมาหลายสัปดาห์ในอาการว้าวุ่นใจที่จะขอเคทแต่งงาน ก่อนจะปักใจชัดเจนว่ารักเคทสุดหัวใจในทริปท่องเที่ยวที่ประเทศเคนยา นิ้วสวยๆ ของเคทจึงได้สวมแหวนหมั้นก่อนศักราช 2010 จะเคลื่อนผ่านไป
เทพนิยายรักโรแมนติกลงเอยด้วยการเสกสมรสกันในปี 2011 แล้วจึงขึ้นเล่มใหม่เป็นนวนิยายชีวิตสะใภ้เจ้า เมื่อดัชเชสยิ้มรับเสียงนกเสียงกาและการถูกวิพากษ์วิจารณ์จุกจิกจากสื่อมวลชน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ผ่านวิกฤตต่างๆ ได้ด้วยกลยุทธ์สำคัญของราชตระกูล คือ ไม่ปริปากบ่น คำน้อยก็ไม่ให้หลุดออกมาจากใจ
ที่สำคัญคือ ดัชเชสเคทพิสูจน์ให้ท่านผู้ชมเห็นชัดๆ กันว่าเต็มใจรับภารกิจตามหัวโขนแห่งสมาชิกราชตระกูล
ได้คู่เทียบเป็นนักแสดงสาวอเมริกัน ความทุ่มเทของดัชเชสเคทจึงเป็นที่ชื่นชม
เอเอฟพีตั้งประเด็นว่าอดีตนักแสดงสาวคนดังแห่งฟากฟ้าฮอลลีวูด เรแชล เมแกน มาร์เคิล ซึ่งก้าวเข้าไปเป็นดัชเชสเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ พระชายาแห่งเจ้าชายแฮร์รี นั้น ไม่โอเคกับภารกิจแห่งราชวงศ์
ยิ่งเมื่อดัชเชสเมแกน สะใภ้หลวงที่คู่กันกับดัชเชสเคท ควงแขนกับเจ้าชายแฮร์รี ก้าวออกจากบทบาทสมาชิกพระราชวงศ์และย้ายไปตั้งหลักพักอาศัยในสหรัฐอเมริกานับแต่เมื่อต้นปี 2020 พร้อมกับออกสื่อโจมตีราชตระกูลอังกฤษซึ่งส่งผลเป็นความร้าวฉาน ดัชเชสเคทก็จึงโดดเด่น เนื่องจากวางตัวดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ คอยระมัดระวังไม่สร้างปัญหาใดๆ ต่อราชบัลลังก์ คอยให้ความร่วมมือและถวายงานแด่สมเด็จพระราชินีนาถอย่างไม่มีที่ติ อีกทั้งยังปฏิบัติบทบาทหน้าที่ตามฐานะพระชายาของเจ้าชายรัชทายาทลำดับที่สองเป็นอย่างดี เป็นที่พอพระราชหทัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง
เตรียมความพร้อมรับภารกิจที่ใหญ่หลวง?
ดัชเชสออฟเคมบริดจ์จะชิลล์เป็นอย่างยิ่งกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ขณะเดียวกันก็จะกระทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมและดีงาม จะแสดงทัศนคติที่สร้างสรรค์ และจะรักษาบุคลิกภาพที่สุภาพ แจ่มใส มีน้ำใจ ให้เกียรติผู้อื่นมาโดยตลอดเวลากว่า 11 ปีของการเป็นสมาชิกราชตระกูลวินเซอร์ ดัชเชสจึงได้รับความชื่นชม เป็นที่นิยมของมหาชน
เหนืออื่นใดคือ ดัชเชสเคทได้พิสูจน์ตนเองว่าเป็นสมาชิราชตระกูลที่พึ่งพาได้ในภาวะวิกฤตต่างๆ
บัดนี้ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งสหราชอาณาจักรได้เจริญพระชนมายุยั่งยืนถึง 95 พรรษา และเริ่มจะเว้นว่างจากพระราชกรณียกิจด้วยสาเหตุด้านความพร้อมของพระวรกาย ในเวลาเดียวกัน เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชบัลลังก์ ก็เจริญพระชนมายุ 73 พรรษา เมื่อถึงเวลาที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ นั่นก็เป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านไปยังเจ้าชายวิลเลียม ผู้ครองพระองค์ได้งดงามอยู่ในวัยที่แข็งแกร่ง เคียงข้างโดยราชินีผู้งดงามทั้งภายนอกและภายใน ผู้ซึ่งเป็นขวัญใจพสกนิกร
ทั้งนี้ นักเขียนผู้เชี่ยวด้านราชวงศ์ ฟิล แดมเพียร์ วิเคราะห์ว่า ในเมื่อเจ้าชายแฮร์รีอยู่ในสถานการณ์เนรเทศตนเอง เจ้าชายแอนดรูว์เผชิญปัญหาภาพลักษณ์และคดีความ ขณะที่สมาชิกระดับสูงแห่งราชตระกูลพระองค์อื่นๆ ล้วนแต่เจริญพระชันษาชรากันมากแล้ว “อนาคตทั้งหมดจึงตกอยู่กับเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคท” ฟิล แดมเพียร์กล่าวอย่างนั้นต่อนักข่าวเดลีเมล์ สื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ พร้อมกับฟันธงว่า
“นับว่าโชคดีที่เจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคทมีความพร้อมที่จะรับช่วงพระราชกรณียกิจ ผมมั่นใจว่าเราจะได้เห็นสิ่งดีเลิศออกมาจากดัชเชสเคทอีกมาก”
ด้านนักประพันธ์คนดัง เคที นิโคล ผู้เขียนชีวประวัติของดัชเชสเคท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เล่มที่ชื่อว่า Kate: The Future Queen ได้สรุปความเป็นเคท มิดเดิลตันว่ามั่นใจในตนเองสูง พร้อมกับให้คำจำกัดความว่า “บุคคลผู้ตระหนักดีถึงจุดแข็งของตนเอง”
เคที นิโคล ให้ความเห็นที่ฝ่ายต่างๆ ล้วนเห็นด้วยว่า
“สถาบันกษัตริย์อังกฤษอยู่ในมือที่มั่นคงปลอดภัย”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เอเอฟพี เอพี royalportraitsgallery.com goodmorningamerica.com ยูทูป)