สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอเมริกายังสาหัส ตัวเลขเคสใหม่เฉลี่ยยังคงอยู่ที่ 540,000 คนต่อวันอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 แล้ว ด้านหมอใหญ่ฟาวซี เตือนอย่าชะล่าใจ ตัวกลายพันธุ์ “โอมิครอน” อาจทำให้ระบบสาธารณสุขแบกรับไม่ไหว ขณะเดียวกัน กองทหารอเมริกันในญี่ปุ่นแสดงการตอบสนองในวันพฤหัสบดี (6 ม.ค.) ภายหลังโตเกียวเรียกร้องวอชิงตัน พิจารณาจำกัดการเดินทางของทหารอเมริกันในฐานทัพญี่ปุ่น ขณะเคสใหม่ในฐานทัพและชุมชนโดยรอบพุ่งพรวด
ในยุโรปนั้น ยอดผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสรอบ 24 ชั่วโมงที่แถลงกันเมื่อวันพุธ (5) ปรากฏว่าทะลุหลัก 300,000 คนเป็นครั้งแรก โดยพุ่งมาอยู่ที่กว่า 332,000 คน หลังจากวันอังคาร (4) เพิ่งทำนิวไฮอยู่ที่ 271,686 คน) ขณะที่ประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ถูกฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์ยับ หลังเขาหลุดปากพูดว่าจะทำให้คนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนต้อง “ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก”
ส่วนที่สหราชอาณาจักร ข้อมูลของทางการระบุว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีที่ผ่านมา ประชาชน 1 ใน 15 ในอังกฤษติดตัวกลายพันธุ์โอมิครอน
กระนั้น นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แถลงวันพุธ (5) ว่า มาตรการจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้อยู่ไร้ประสิทธิภาพในการสกัดไวรัส และหลังจากนั้นรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกมาตรการตรวจโควิดและกักตัวนักเดินทาง
ที่อิตาลี รัฐบาลออกกฎบังคับให้ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนเกือบครึ่งของประชากรทั้งหมดต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด
ส่วนที่อเมริกา นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านโรคติดเชื้อ เตือนไม่ให้ชะล่าใจกับโอมิครอน เพราะแม้มีอาการรุนแรงน้อยกว่าโควิดสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบก่อนหน้านี้ แต่ความสามารถในการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วอาจทำให้ระบบสาธารณสุขแบกรับไม่ไหว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในวันอังคาร (4) ยอดเฉลี่ยผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 7 วันของอเมริกายังคงอยู่ที่ 540,000 คนต่อวัน นับว่าต่อเนื่องมาวันที่ 8 ทั้งนี้ ตัวเลขยอดเฉลี่ย 7 วันได้รับความเชื่อถือสูงกว่าตัวเลขที่รายงานกันประจำวัน ซึ่งมีข้อผิดพลาดได้มากกว่า ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยโควิดที่อาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วงเดียวกัน ได้เพิ่มขึ้นถึง 45% อยู่ที่กว่า 110,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เห็นมานานนับจากเดือนมกราคมปีที่แล้ว
จากสถานการณ์การระบาดหนักหน่วงในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย ส่งผลให้ฮ่องกงประกาศแบนเที่ยวบินจาก 8 ประเทศเมื่อวันพุธ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน และอินเดียที่มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในเวลาเพียง 2 วัน
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ มุมไบที่ถือเป็นเมืองหลวงทางการเงินของอินเดีย พบผู้ติดเชื้อกว่า 15,000 คน ซึ่งเป็นสถิติรายวันสูงสุดนับจากโควิดเริ่มระบาด ขณะที่หลายเมืองใช้คำสั่งเคอร์ฟิว และกรุงนิวเดลีขอให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึง
สำหรับที่ญี่ปุ่น โยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เรียกร้องให้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พิจารณาจำกัดการเดินทางของทหารอเมริกัน หลังพบการระบาดเพิ่มสูงในเกาะโอกินาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพที่มีทหารอเมริกันประจำการอยู่มากที่สุดในญี่ปุ่น และพื้นที่ชุมชนโดยรอบฐานทัพ โดยในวันพุธเกาะแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อ 623 คน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของวันก่อนหน้า
ด้านกองทหารอเมริกันประจำญี่ปุ่นออกคำแถลงในวันพฤหัสบดี (6) ยกระดับมาตรการป้องกันไวรัสเข้มงวดขึ้น ซึ่งรวมถึงการกำหนดให้ทหารต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกฐานทัพ และการเพิ่มกฎการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ เพื่อรับมือการระบาดของโควิดในฐานทัพและทั่วญี่ปุ่น
ในวันพฤหัสฯ เช่นกัน เดนนี ทามากิ ผู้ว่าการจังหวัดโอกินาวา ได้ยื่นคำร้องถึงรัฐบาลระดับชาติ ขออนุญาตเพิ่มมาตรการต่อต้านโควิด-19 ในจังหวัดของเขา โดยที่ ทามากิประณามทหารสหรัฐฯ ว่า เป็นตัวการทำให้เกิดเคสติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัวอันตรายที่เกาะโอกินาวา
สำหรับสถานการณ์การระบาดในญี่ปุ่นโดยรวมนั้น สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเกิน 4,000 คนเมื่อวันพฤหัสฯ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับจากวันที่ 18 กันยายน ส่วนในโตเกียวพบผู้ติดเชื้อ 690 คน เพิ่มขึ้นจาก 390 คนในวันพุธ และคณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่า 45% ในจำนวนนี้ติดเชื้อโอมิครอน
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)