เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธไปตกนอกชายฝั่งทางตะวันออกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (5 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำคำมั่นของผู้นำ คิม จองอึน ที่ประกาศเมื่อช่วงปีใหม่ว่าจะยกระดับแสนยานุภาพกองทัพโสมแดง เพื่อรับมือสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน
ยามฝั่งญี่ปุ่นซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่แจ้งรายงาน ระบุว่า อาวุธที่โสมแดงยิงคราวนี้น่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นระบุว่า จรวดดังกล่าวถูกยิงออกมาไกลประมาณ 500 กิโลเมตร
“ในช่วงปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีการยิงทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ” ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงต่อสื่อมวลชน
ญี่ปุ่นยังประกาศด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศจะเปิดการประชุมแบบ ‘2 บวก 2’ ร่วมกับสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (7) เพื่อหารือประเด็นความมั่นคง
ด้านคณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ (JCS) ยืนยันว่า ตรวจพบขีปนาวุธถูกยิงจากดินแดนของเกาหลีเหนือออกไปสู่ทะเล และกำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากในระยะหลังๆ มานี้ โสมแดงมักจะยิงขีปนาวุธติดต่อกันมากกว่า 1 ลูก
สภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน และแสดงความกังวลว่าการยิงทดสอบอาวุธของโสมแดง “มีขึ้นในช่วงเวลาที่เสถียรภาพทั้งภายในและภายนอกประเทศเป็นสิ่งสำคัญ” พร้อมทั้งเรียกร้องให้เปียงยางหวนคืนสู่โต๊ะเจรจา
ด้านทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ
ผู้นำ คิม จองอึน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงก่อนวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งแม้จะไม่มีการเอ่ยถึงขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์อย่างชัดเจน แต่ย้ำให้กองทัพยกระดับการป้องกันประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น
เจ้าหน้าที่กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ทหารเกาหลีเหนือมีการซ้อมรบในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์แล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกาหลีเหนือยิ่งกลายเป็นรัฐโดดเดี่ยวมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลใช้มาตรการปิดพรมแดนเข้มงวดเพื่อสกัดโรคระบาด ซึ่งทำให้การค้าข้ามพรมแดนและกิจกรรมการทูตแบบพบปะตัวต่อตัวต้องหยุดชะงักไปด้วย
เกาหลีเหนือยังคงรักษาสัญญาที่ว่าจะไม่ทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) หรืออาวุธนิวเคลียร์ โดยครั้งสุดท้ายที่มีการทดสอบอาวุธประเภทนี้คือเมื่อปี 2017 ก่อนที่ คิม จะเริ่มต้นฟื้นสัมพันธ์การทูตกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในยุคโดนัลด์ ทรัมป์
กระนั้นก็ตาม เปียงยางยังคงทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้รุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ (SLBM) ที่ยิงไปเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นระบบอาวุธที่หลายประเทศก็มีกัน
ที่มา : รอยเตอร์