ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในฝรั่งเศสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศแห่งนี้ ทะลุ 200,000 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันศุกร์ (31 ธ.ค.)
สำนักงานสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุในผลสำรวจรายสัปดาห์ล่าสุดที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (30 ธ.ค.) ว่า "62.4% ของผลตรวจเชื้อในช่วงต้นสัปดาห์ พบมีลักษณะสอดคล้องกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน เมื่อเทียบกับ 15% ของสัปดาห์ก่อนหน้านี้"
การรุกคืบของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ สืบเนื่องจากมันแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมากๆ และกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศอื่นๆ ของยุโรปไปแล้วก่อนหน้านี้ ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักรและโปรตุเกส
สายพันธุ์โอมิครอนเป็นปัจจัยที่โหมกระพือการพุ่งขึ้นของเคสผู้ติดเชื้อในปัจจุบัน ซึ่งในช่วง 24 ชั่วโมงจากวันพฤหัสบดี (30 ธ.ค.) จนถึงวันศุกร์ (31 ธ.ค.) พบเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 232,200 คน นับเป็นตัวเลขที่มากกว่า 200,000 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
ในช่วงเริ่มเข้าสู่เดือนธันวาคม ฝรั่งเศสมีเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันแค่ประมาณ 50,000 คน และหากย้อนกลับไปในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ยอดติดเชื้อรายวันทำสถิติทะลุ 10,000 คน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน
เวลานี้โรงพยาบาลต่างๆ ของฝรั่งเศสต้องดูแลคนไข้โควิด-19 มากกว่า 18,000 คน ในนั้นรวมถึงผู้ป่วยใหม่ 1,922 คนระหว่างวันพุธ (29 ธ.ค.) จนถึงวันพฤหัสบดี (30 ธ.ค.) และมากกว่า 3,500 อยู่ในห้องไอซียู
ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกหนักหน่วง รัฐบาลฝรั่งเศสแถลงเมื่อวันจันทร์ (27 ธ.ค.) กำหนดข้อจำกัดใหม่ๆ เพื่อให้ผู้คนทำงานจากที่บ้าน และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะต่างๆ กระตุ้นโรงเรียนทั้งหลายเตรียมกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันจันทร์หน้า (3 ม.ค.) หลังจากหยุดยาว
ปารีสกลับมาบังคับสวมหน้ากากยามอยู่กลางแจ้งอีกครั้ง โดยบังคับใช้กับทุกคนอายุ 11 ปีขึ้นไป เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (31 ธ.ค.)
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 123,741 ราย จากผู้ติดเชื้อสะสม 9,972,800 คน นับตั้งแต่มันปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในจีนในช่วงปลายปี 2019
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)
