เอพี - เจ้าหน้าที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ "เซฟ เดอะ ชิลเดรน" จำนวน 2 คนหายสาบสูญเมื่อวันเสาร์ (25 ธ.ค.) หลังกองทัพพม่าบุกกวาดต้อนชาวบ้าน ซึ่งเชื่อว่า มีเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย และยังยิงกับเผาร่างผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน
ภาพหลังเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อวันศุกร์ (24 ธ.ค.) ในหมู่บ้านโมโซทางตะวันออก นอกเมืองพะยูโซ รัฐกะยา ซึ่งเป็นที่หลบภัยของผู้ลี้ภัยที่หนีการโจมตีของกองทัพพม่า ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย เพิ่มความโกรธแค้นชิงชังที่มีต่อกองทัพพม่าที่เข้ายึดอำนาจตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ภาพเหล่านี้ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เผยให้เห็นร่างผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนไหม้เกรียมในรถ 3 คันที่ถูกเผา
ชาวบ้านคนหนึ่งที่ไปยังที่เกิดเหตุเล่าว่า เหยื่อเหล่านี้พยายามหลบหนีการต่อสู้ระหว่างกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารพม่ากับกองทัพพม่า และถูกฆ่าหลังถูกกองทัพพม่าจับได้ขณะมุ่งหน้ากลับไปที่ค่ายผู้ลี้ภัยทางตะวันตกของเมือง
ทางด้าน "เซฟ เดอะ ชิลเดรน" เผยว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนที่กำลังเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลวันหยุดหลังจากทำงานให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนในชุมชนใกล้เคียง ถูกจับในเหตุการณ์ดังกล่าวและยังคงหายตัวไปจนถึงล่าสุด นอกจากนั้น ยังได้รับการยืนยันว่า รถยนต์ส่วนตัวของทั้งคู่ถูกโจมตีและเผา รวมถึงมีรายงานว่า กองทัพพม่าบังคับให้คนทั้งหมดลงจากรถ บางคนถูกจับกุม บางคนถูกฆ่าและเผา
รัฐบาลทหารพม่าไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเหล่านั้น แต่รายงานในหนังสือพิมพ์เมียนมา อาลินน์ของรัฐบาลฉบับวันเสาร์ระบุว่า มีการต่อสู้ใกล้หมู่บ้านโมโซเมื่อวันศุกร์ หลังจากสมาชิกกลุ่มกองโจรของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี และฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่าขับรถยนต์ต้องสงสัยและไม่ยอมจอดรถตามคำสั่งแต่กลับโจมตีกองกำลังความมั่นคง
มีรายงานระบุว่า กลุ่มคนเหล่านั้นรวมถึงสมาชิกใหม่ที่กำลังจะไปร่วมฝึกเพื่อรบกับกองทัพพม่า และรถ 7 คันถูกเผา แต่ไม่ได้กล่าวถึงการสังหารหมู่
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า ศพถูกมัดด้วยเชือกก่อนเผาจนมีสภาพไหม้เกรียมไม่สามารถระบุตัวตนได้ นอกจากนั้น ยังพบเสื้อผ้าเด็กและผู้หญิง รวมถึงยาและอาหาร เขายังบอกว่า แม้ไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีการสังหาร แต่เชื่อว่า เหยื่อบางคนเป็นชาวบ้านในโมโซที่มีข่าวว่า ถูกทหารจับกุมเมื่อวันศุกร์ และยืนยันว่า คนเหล่านั้นไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่น
ทั้งนี้ สื่ออิสระในพม่ารายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ชาวบ้าน 10 คนในหมู่บ้านโมโซ รวมถึงเด็ก ถูกทหารจับกุมไป และสมาชิกกองกำลังกึ่งทหารท้องถิ่นของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน 4 คนที่ไปเจรจาให้ปล่อยตัวชาวบ้านเหล่านั้นถูกทหารจับมัดและจ่อยิงศีรษะ
ผู้เห็นเหตุการณ์ยังเล่าว่า ชาวบ้านและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลต้องทิ้งศพคนเหล่านั้นไว้ขณะที่กองทัพเข้าไปใกล้โมโซตอนที่ชาวบ้านกำลังเตรียมงานเผา และยังมีการต่อสู้ดุเดือดใกล้หมู่บ้าน
บันยาร์ คุน อ่อง ผู้อำนวยการกลุ่มสิทธมนุษยชนคะเรนนี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอาชญากรรมชั่วร้ายและเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดระหว่างคริสต์มาส และประณามว่า การสังหารหมู่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม กองทัพพม่าเคยถูกกล่าวหาว่า เข้าไปจับชาวบ้านมัดและเผาทั้งเป็น ซึ่งเชื่อว่ามีเด็กรวมอยู่ด้วย
ภาพเหตุการณ์หลังการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นการล้างแค้นการโจมตีขบวนรถทหาร เผยให้เห็นร่างผู้เสียชีวิต 11 คนถูกเผากองอยู่ในวงกลมท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนซากกระท่อม
ขณะเดียวกัน ยังคงมีการสู้รบบริเวณรัฐชายแดนติดกับไทยเมื่อวันเสาร์ และมีชาวบ้านหลายพันคนพยายามหนีออกมา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า กองทัพพม่าโจมตีทางอากาศและโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่หมู่บ้านเลเคก่อที่ควบคุมโดยกองกำลังกะเหรี่ยง
ชาติตะวันตก ซึ่งรวมถึงสถานทูตอเมริกัน ออกแถลงการณ์ร่วมประณามรัฐบาลทหารพม่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงทั่วประเทศ และเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายุติการโจมตีโดยไม่เลือกในรัฐกะเหรี่ยงและทั่วประเทศทันที รวมถึงรับประกันความปลอดภัยของพลเรือนทั้งหมดตามกฎหมายระหว่างประเทศ