แม้มีมาตรการเข้มงวดเพื่อคงไว้ซึ่งการล่องเรือมหาสมุทรที่ปราศจากเชื้อโควิด-19 แต่ท้ายที่สุดแล้วบริษัทรอยัล แคริบเบียน เปิดเผยว่า มีอย่างน้อย 48 คน บนเรือลำหนึ่งของพวกเขาที่จอดเทียบท่าในไมอามี สหรัฐฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก
ผู้โดยสารคนหนึ่งมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก ระหว่างที่ ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ เรือสำราญใหญ่ที่สุดในโลก กำลังบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 6,000 คน ล่องทะเลแคริบเบียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ กระตุ้นให้มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นวงกว้าง จากการเปิดเผยของรอยัล แคริบเบียน
ย้อนกลับไปในช่วงฤดูร้อนปีนี้ การเดินทางด้วยเรือสำราญเคยถูกอวดอ้างว่าเป็นหนึ่งในการหยุดพักผ่อนที่ปลอดภัยมากที่สุด ครั้งอุตสาหกรรมการล่องเรือสำราญกลับมาให้บริการอีกครั้งในสหรัฐฯ ภายใต้กฎระเบียบใหม่โควิด-19 หลังจากเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์สกัดโรคระบาดใหญ่อยู่ช่วงหนึ่งเป็นเวลานานพอสมควร
ถ้อยแถลงของรอยัล แคริบเบียน ระบุว่า ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 6,091 คน และแขกคนหนึ่งมีผลตรวจเป็นบวกระหว่างล่องเรือ จากนั้นก็ตรวจพบเคสอื่นๆ ตามมาหลังการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด
บุคคลที่อยู่บนเรือฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วคิดเป็นสัดส่วน 95% และในบรรดาคนที่มีผลตรวจเป็นบวกนั้น มีอยู่ถึง 98% ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางรอยัล แคริบเบียน ระบุว่าจำนวนเคสผู้ติดเชื้อคิดเป็นเพียงแค่ 0.78% ของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก ซึ่งปัจจุบันกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก อยู่เบื้องหลังเคสผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ หรือไม่
กฎระเบียบของรอยัล แคริบเบียน บังคับผู้โดยสารทุกคนอายุ 12 ปีขึ้นไปที่อยู่บนเรือ ต้องฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วและมีผลตรวจเชื้อเป็นลบก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้แล้วยังออกคำแนะนำอย่างหนักแน่นถึงผู้โดยสาร ให้เข้ารับเข็มกระตุ้นก่อนการล่องเรือ แต่ปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นบังคับ
ส่วนลูกเรือก็ถูกบังคับให้ฉีดวัคซีนครบเข็มและทำการตรวจเชื้ออย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์
เด็กๆ ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนบนเรือสำราญ ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ จำเป็นต้องแสดงผลตรวจพบ PCR เป็นลบ และต้องมีผลตรวจเป็นลบ ณ ท่าเทียบเรือก่อนออกเดินทาง
นอกจากนี้แล้วรอยัล แคริบเบียน ยังนำมาตรการสาธารณสุขและความปลอดภัยอื่นๆ มาใช้เพิ่มเติม เช่น เพิ่มการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ขณะที่เรือสำราญต่างๆ ที่ประจำการในสหรัฐฯ เวลานี้จำเป็นต้องบังคับสวมหน้ากากในฐานะที่เป็นพื้นที่สาธารณะในร่ม นโยบายที่เพิ่งอัปเดตเมื่อไม่นานที่ผ่านมา สำหรับการขยายข้อบังคับสวมหน้ากากครอบคลุมพวกผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนครบเข็มด้วย
"แต่ละคนถูกพาตัวเข้าสู่การกักกันโรคอย่างรวดเร็ว" ถ้อยแถลงของรอยัล แคริบเบียน ระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดบนเรือสำราญ ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ "ทุกคนที่มีผลตรวจเป็นบวกไม่แสดงอาการหรือมีอาการแค่เล็กน้อย เราจะคอยติดตามสุขภาพของพวกเขาอย่างใกล้ชิด"
ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ออกเดินทางจากไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม หยุดเทียบท่าที่เซนต์มาร์เตนและเซนต์โทมัสในแคริบเบียน เช่นเดียวกับเกาะส่วนตัวของรอยัล แคริบเบียน ที่มีชื่อว่า โคโคเคย์
บริษัทเดินเรือสำราญแห่งนี้เผยว่า ได้ให้ผู้โดยสาร 6 คนที่มีผลตรวจเป็นบวกระหว่างล่องเรือลงจากเรือไปก่อนหน้านี้ ส่วนนักเดินทางคนอื่นๆ ที่มีผลตรวจเป็นบวกลงจากเรือในวันที่ 18 ธันวาคม ตอนที่สิ้นสุดการเดินทาง พร้อมระบุว่า การล่องเรือของ ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ในอนาคต จะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
สมาคมล่องเรือสำราญระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสมาคมการเดินเรือสําราญใหญ่ที่สุดของโลก ระบุในถ้อยแถลงว่า พวกเขากำลังจับตาพัฒนาการที่เกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน และยังคงประสานงานใกล้ชิดกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับชาติและระดับท้องถิ่นตามสถานที่ต่างๆ ที่เรือล่องผ่าน
นอกจากนี้ สมาคมล่องเรือสำราญระหว่างประเทศ เผยด้วยว่า ได้ให้บริษัทเดินเรือสำราญที่เป็นสมาชิกทุกบริษัทใช้แนวทางเชิงรุกตอบสนองต่อโรคระบาดใหญ่
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)