รัสเซียกับจีนเห็นพ้องกันว่าต้องปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของแต่ละฝ่าย และต่อต้านการแทรกแซงของฝ่ายตะวันตกที่ใช้ข้ออ้างเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุเช่นนี้ระหว่างการหารือแบบเสมือนจริงเมื่อคืนวันพุธ (15 ธ.ค.) โดยที่ผู้นำหมีขาวยังยืนยันไปร่วมมหกรรมปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาว พร้อมประณามการบอยคอตต์ทางการทูตของอเมริกาและพันธมิตร
การประชุมทางไกลผ่านจอภาพระหว่าง ปูติน กับ สี คร้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากปูตินประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกา ผ่านไปได้ 8 วัน ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า บรรยากาศที่หมีขาวกับมังกรเป็นปฏิปักษ์กับตะวันตกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นพลังดึงดูดให้มอสโกกับปักกิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานโดยอ้างอิงคำพูดของสี ว่า ขณะนี้กองกำลังนานาชาติบางกลุ่มกำลังแทรกแซงกิจการภายในของจีนและรัสเซีย เหยียบย่ำกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งเป็นที่การยอมรับกัน โดยใช้ข้ออ้างเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ดังนั้น จีนและรัสเซียจึงควรเพิ่มความพยายามร่วมกันเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วน ยูริ ยูชาคอฟ ผู้ช่วยของปูติน เผยว่า สี แสดงการสนับสนุนข้อเรียกร้องของ ปูติน ซึ่งต้องการให้ฝ่ายตะวันตกค้ำประกันด้านความมั่นคงที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายแก่รัสเซีย เนื่องจากปักกิ่งเข้าใจดีถึงความกังวลของมอสโก
ผู้นำทั้งสองยังแสดงความคิดเห็นแง่ลบเกี่ยวกับการตั้งกลุ่มพันธมิตรทางการทหารกลุ่มใหม่ในชื่อ “ออคัส” ระหว่างออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกา และกลุ่ม “คว็อด” ในอินโด-แปซิฟิก ที่ประกอบด้วย ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และอเมริกา
การหารือครั้งนี้ตอกย้ำแบบแผนในระยะหลังๆ มานี้ ที่รัสเซียและจีนมักร่วมมือกันในสถานการณ์ที่เกิดความตึงเครียดกับตะวันตก โดยในเวลานี้ จีนกำลังถูกกดดันเรื่องสิทธิมนุษยชน ส่วนรัสเซียถูกกล่าวหาว่า คุกคามยูเครน
ฝ่ายมอสโกบอกว่า ปูตินเล่าให้ สี ฟังเรื่องที่คุยกับไบเดน และผู้นำสหรัฐฯ เตือนรัสเซียไม่ให้บุกยูเครน ซึ่งรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมกันนั้น ปูตินเรียกร้องกลับให้ตะวันตกรับประกันด้านความมั่นคง ซึ่งมีการขยายความว่า ได้แก่การที่ตะวันตกต้องรับปากไม่ขยายองค์การนาโต้ไปทางตะวันออกต่อไปอีก รวมทั้งไม่นำเอาพวกอาวุธเพื่อการโจมตีไปประจำการในประเทศที่อยู่ติดกับรัสเซีย
ประมุขวังเครมลินยังบอกกับ สี ว่า รัสเซียและจีนได้สร้างความร่วมมือรูปแบบใหม่ที่อิงกับหลักการสำคัญๆ เช่น การไม่แทรกแซงกิจการภายในและการเคารพผลประโยชน์ของกันและกัน พร้อมหยอดว่า เฝ้ารอที่จะได้พบสีระหว่างโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่สัปดาห์ที่แล้ว อเมริกา อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ประกาศว่า จะไม่ส่งตัวแทนทางการเมืองไปร่วมมหกรรมกีฬาดังกล่าวเพื่อตอบโต้ที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมในซินเจียง
ปักกิ่งและมอสโกยังประณามการบอยคอตต์ทางการทูตเช่นนี้ และเมื่อวันพุธ ปูตินสำทับว่า ตนและ สี คัดค้านความพยายามในการทำให้การแข่งขันกีฬาและโอลิมปิกกลายเป็นประเด็นการเมือง
ทั้งนี้ พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียซึ่งรวมถึงปูตินด้วย ถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ สืบเนื่องจากกรณีรัสเซียดำเนินโครงการให้นักกีฬาใช้สารกระตุ้นชนิดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในระหว่างโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิ ของรัสเซีย เมื่อปี 2014 โดยที่จะได้รับยกเว้นต่อเมื่อได้รับเชิญจากประมุขรัฐของประเทศเจ้าภาพ และงานปักกิ่งโอลิมปิกครั้งนี้ สีได้ส่งคำเชิญถึงปูตินแล้ว
ที่ผ่านมา ปูตินมักใช้การเป็นพันธมิตรกับจีนเพื่อคานอิทธิพลอเมริกา ควบคู่กับการทำสัญญาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันที่มีมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน ปีนี้ผู้นำรัสเซียกับจีนยังตกลงขยายสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระยะ 20 ปีอีกด้วย
ปูตินสำทับว่า มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นมา 31% เป็น 123,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ และทั้งสองประเทศตั้งเป้าดันตัวเลขเพิ่มเป็น 200,000 ล้านดอลลาร์ในอนาคต
ผู้นำแดนหมีขาวทิ้งท้ายว่า จีนกลายเป็นศูนย์กลางนานาชาติสำหรับการผลิตวัคซีนโควิด “สปุตนิก” และ “สปุตนิกไลต์” ของรัสเซีย โดยมีการทำสัญญากับผู้ผลิต 6 แห่งเพื่อผลิตวัคซีนกว่า 150 ล้านโดส
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)