สหราชอาณาจักรเผชิญใกล้เผชิญกับ "คลื่นยักษ์" ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และวัคซีน 2 เข็มจะไม่เพียงพอควบคุมมัน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ส่งเสียงเตือนในวันอาทิตย์ (12 ธ.ค.) ในขณะที่เขาเร่งเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชน
จอห์นสัน เปิดแถลงข่าวไม่นานหลังจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลยกระดับเตือนภัยจากระดับสู่ระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ขั้น โดยบอกว่าโครงการเข็มกระตุ้นจำเป็นต้องเดินหน้าให้เร็วขึ้น สืบเนื่องจากพวกนักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้ว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนก่ออาการเจ็บป่วยเบากว่าตัวกลายพันธุ์อื่นๆ หรือไม่
"คลื่นยักษ์ของโอมิครอนกำลังมา" จอห์นสันกล่าวในถ้อยแถลงที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในตอนเย็นวันอาทิตย์ (12 ธ.ค.) "และผมกลัว ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าวัคซีน 2 เข็มไม่เพียงพอที่จะมอบระดับการป้องกันพวกเราทั้งหมดตามที่ต้องการ"
เขาบอกว่าพวกนักวิทยาศาสตร์รู้ว่า โอมิครอนแพร่เชื้อได้ง่ายกว่ามาก และระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service) จะประสบปัญหาในการรับมือกับผู้ติดเชื้อที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หากว่าตัวกลายพันธุ์นี้ทะลุผ่านพลเมืองที่ยังไม่ฉีดเข็มกระตุ้น
"ประชาชนในอังกฤษอายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิจะมีโอกาสเข้ารับเข็มกระตุ้นก่อนสิ้นปี" เขากล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จอห์นสัน ประกาศใช้มาตรการโควิด-19 "แผนบี" สำหรับอังกฤษ สั่งให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน สวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะ และใช้บัตรผ่านวัคซีน เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโอมิครอน
ด้วย ส.ส.พรรคคอนเซอร์เวทีฟ ของจอห์นสันเองเตรียมโหวตคัดค้านมาตรการเหล่านี้ จอห์นสันจึงบอกว่าไม่มีแผนกำหนดข้อจำกัดต่างๆ เพิ่มเติม แม้เคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รอบ 7 วัน ดีดตัวขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขยับขึ้นเหนือ 50,000 คนต่อวัน สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงพีกสุดของการแพร่ระบาดระลอกที่แล้ว
จนถึงตอนนี้สหราชอาณาจักรมียอดผู้เสียชีวิตสะสมทั้งสิ้น 146,439 ราย สูงที่สุดของยุโรป จากผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 10.8 ล้านคน
แม้ข้อมูลดังกล่าวก่อความเสียหายแก่ชื่อเสียงของรัฐบาลท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคระบาดใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่ได้รับเสียงชื่นชมต่อความเคลื่อนไหวดำเนินโครงการฉีดวัคซีนรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งช่วยสกัดจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันไม่ให้พุ่งสูง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คำถามเกี่ยวกับอนาคตของจอห์นสันในฐานะนายกรัฐมนตรีผุดขึ้นมาอีกรอบ หลังปรากฏเรื่องอื้อฉาวต่างๆ และที่ก่อความเสียหายมากที่สุด คือ รายงานข่าวที่ว่าทำเนียบนายกรัฐมนตรีได้มีการจัดปาร์ตีหนึ่งระหว่างมาตรการล็อกดาวน์ช่วงคริสต์มาสปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคำสั่งห้ามจัดกิจกรรมลักษณะดังกล่าว
ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งของ Survation poll ที่จัดทำให้หนังสือพิมพ์เดลิมิเรอร์และเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (12 ธ.ค.) พบว่าชาวสหราชอาณาจักร 77% บอกว่าพวกเขาอาจจะไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบโควิด-19 หากว่าพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลฝ่าฝืนมันเสียเอง
(ที่มา : เอเอฟพี)