ตัวกลายพันธุ์ "โอมิครอน" ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดไปยังรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ แล้ว 1 ใน 3 แต่ตัวกลายพันธุ์เดลตายังคงเป็นสายพันธุ์หลัก ในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกาในวันอาทิตย์ (5 ธ.ค.)
แม้การปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ใหม่ได้ก่อความกังวลทั่วโลก แต่นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี เจ้าหน้าที่ด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า "จนถึงตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่มีระดับความรุนแรงสาหัสสากรรจ์เท่าไหร่" อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปและจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม
เฟาซี ที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความหวังด้วยว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกคำสั่งแบนนักเดินทางจากประเทศต่างๆ ในแถบตอนใต้ของทวีปแอฟริกา "ในช่วงเวลาหนึ่งที่สมเหตุสมผล" หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลแอฟริกาใต้คว่ำครวญว่าพวกเขากำลังถูกลงโทษแทนเสียงชื่นชม สำหรับการค้นพบตัวกลายพันธุ์ใหม่และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว
นายแพทย์เฟาซี ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ยกย่องแอฟริกาใต้สำหรับความโปร่งใสและอ้างว่ามาตรการแบนด้านการเดินทางของสหรัฐฯ ถูกกำหนดออกมาในช่วงเวลาที่ "เรามืดแปดด้าน" และต้องการเวลาสำหรับศึกษาตัวกลายพันธุ์นี้
จากการนับของรอยเตอร์ มีรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ อย่างน้อย 16 รัฐที่รายงานพบผูุ้ติดเชื้อโอไมครอน ประกอบด้วย แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนตทิคัต ฮาวาย ลุยเซียนา แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มินเนโซนา มิสซูรี เนบราสกา นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย ยูทาห์ วอชิงตัน และวิสคอนซิน
เคสผู้ติดเชื้อหลายรายเป็นบุคคลที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว มีอาการเล็กน้อย แต่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานะเข็มกระตุ้นของคนไข้บางส่วน
แม้พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วหลายสิบรัฐ แต่ตัวกลายพันธุ์เดลตายังคงคิดเป็นสัดส่วนถึง 99.9% ของเคสผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ จากการเปิดเผยของแพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) "เราได้ยินข่าวทุกๆ วันเกี่ยวกับเคสต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มเติม ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าจำนวนจะเพิ่มสูงขึ้น"
ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของสหรัฐฯ อยู่ที่ 119,000 คนต่อวันในช่วง 7 วันหลังสุด และเสียชีวิตเกือบ 1,300 คนในแต่ละวัน
ผู้ว่าการรัฐคอนเนตทิคัตและโคโลราโด 2 รัฐที่รายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน หวังว่าค่าเฉลี่ยฉีดวัคซีนที่สูงกว่ารัฐอื่นๆ จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาด "เราอยากเห็นว่าวัคซีนยืนหยัดได้ดีแค่ไหน" จาเรด โพลิส ผู้ว่าการรัฐโคโลนาโดบอกกับสำนักข่าวเอบีซี
ในขณะที่เคสผูุ้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนโผล่ในสหรัฐฯ บรรดาผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 วางเป้าหมายปรับแก้วัคซีนของพวกเขาอย่างรวดเร็วสำหรับเล็งเป้าจัดการกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน และคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของอเมริกาประกาศจะดำเนินการตรวจสอบทบทวนอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นทั้งหมดทั้งมวลก็อาจต้องกินเวลานานหลายเดือน
โมเดอร์นา อิงค์ วางเป้าหมายขอคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ อนุมัติวัคซีนรุ่นอัปเดตของพวกเขาอย่างเร็วที่สุดในเดือนมีนาคม แต่เจ้าหน้าที่ของบริษัทในวันอาทิตย์ (5 ธ.ค.) บอกว่ายังคงต้องใช้เวลาสำหรับเพิ่มกำลังผลิต ขณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังทำงานร่วมกับไฟเซอร์ อิงค์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเกี่ยวกับวัคซีนรุ่นอัปเดตเช่นกัน
(ที่มา : รอยเตอร์)
