เยอรมนีในวันพฤหัสบดี (2 ธ.ค.) กำหนดข้อจำกัดต่างๆ สำหรับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ในขณะที่พวกเขาหาทางตัดวงจรเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันที่พุ่งขึ้นอย่างน่าตื่นตะลึง และดูเหมือนว่ากำลังถูกซ้ำเติมจากการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ใหม่โอมิครอน
นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง และโอลาฟ โชลซ์ ผู้สืบทอดเก้าอี้ของเธอ เห็นพ้องกับเหล่ามุขมนตรี 16 รัฐของเยอรมนี สำหรับห้ามคนที่ไม่ฉีดวัคซีนเข้าไปยังสถานที่ทั้งหมด ยกเว้นแต่ธุรกิจที่มีความจำเป็น อย่างเช่นร้านขายของชำ ร้านขายยา และร้านเบเกอรี
นอกจากนี้แล้วพวกเขายังตกลงกันจะผ่านกฎหมายในรัฐสภาระดับชาติ สำหรับบังคับฉีดวัคซีน
ในความตั้งใจหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์ที่อาจบ่อนทำลายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ พวกเขาตัดสินใจให้ภาคธุรกิจต่างๆ ยังคงเปิดบริการแก่ประชากรเกือบ 69% ที่ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว เช่นเดียวกับคนที่มีข้อพิสูจน์ว่าพวกเขาหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19
"สถานการณ์ร้ายแรงมาก" แมร์เคิลกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับโชลซ์ ซึ่งคาดหมายว่าจะได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้าให้ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี "จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงทรงตัว แต่มันอยู่ในระดับที่สูงมากๆ"
แมร์เคิลระบุว่า จะขอให้คณะกรรมาธิการด้านจริยธรรมชุดหนึ่งร่างกฎหมายสำหรับบังคับฉีดวัคซีน และสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดอภิปรายและลงลมติมาตรการอันเป็นที่ถกเถียงดังกล่าวอย่างช้าที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์
เจ้าหน้าที่กังวลว่าการแพร่ระบาดระลอก 4 ของโควิด-19 เสี่ยงทำให้คนไข้ล้นห้องไอซียู และในวันพฤหัสบดี (2 ธ.ค.) รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 73,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 388 คน
พวกนักไวรัสวิทยากล่าวโทษการแพร่ระบาดรอบใหม่ไปที่การขัดขืนเข้ารับวัคซีนของคนส่วนหนึ่งของสังคมซึ่งมีจำนวนมาก และวิพากษ์วิจารณ์พวกนักการเมืองต่อกรณีที่ดำเนินการต่างๆ ช้าเกินไปสำหรับควบคุมโรคระบาดใหญ่
เยอรมนีมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่า 70% เล็กน้อย ซึ่งพอๆ กับค่าเฉลี่ยของอียู แต่ยังต่ำกว่าประเทศต่างๆ อย่างโปรตุเกสและไอร์แลนด์
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณต่างๆ ว่าเส้นกราฟของการแพร่ระบาดรอบใหม่กำลังทรงตัว โดยอัตราอุบัติการณ์ (Incidence rate) ของโรคต่อประชากร 100,000 คน ลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เหลือ 439.2 ราย
แมร์เคิล ชูข้อจำกัดต่างๆ ว่าเป็นการลงมืออย่างเป็นอันหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง และบอกว่ารัฐทั้งหลายที่มีอัตราอุบัติการณ์รอบ 7 วัน แตะระดับ 350 ราย จะยกระดับความเข้มงวดต่างๆ ในนั้นรวมถึงปิดไนต์คลับ สถานที่เล่นดนตรีและจำกัดกิจกรรมในร่มให้มีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 50 คน
ความพยายามควบคุมโรคระบาดใหญ่จะเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ของโชลซ์ ซึ่งจะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เป็นผู้นำรัฐบาลผสมที่ประกอบด้วยพรรคโซเชียลเดโมแครตส์ พรรคกรีนส์และพรรคฟรีเดโมแครตส์ โดย โชลซ์ ที่จะก้าวเข้าสู่อำนาจอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ระบุว่าเยอรมนีจะหาทางฉีดวัคซีนประชาชนเพิ่มอีก 30 ล้านเข็มภายในช่วงคริสต์มาส
(ที่มา : รอยเตอร์)