สหรัฐฯ กำลังส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ให้ไต้หวันเพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านโดส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอเมริการายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ เพิ่มตัวเลขรวมที่วอชิงตันบริจาคให้ไทเปเป็น 4 ล้านโดส ในขณะที่เกาะปกครองตนเองแห่งนี้กำลังเผชิญแรงกดดันจากจีนหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
การส่งมอบวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ชุดใหม่ จะเดินทางออกจากลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกีในวันอาทิตย์ (31 ต.ค.) บนเที่ยวบินของสายการบินไชนา แอร์ไลน์ส แห่งไต้หวัน เจ้าหน้าที่ระบุ
"วัคซีนของเราไม่ได้มาพร้อมกับข้อผูกมัดต่างๆ และไม่ได้บริจาคเพื่อให้ได้รับความชื่นชอบหรือบีบให้ยอมทำตาม" เจ้าหน้าที่รัฐบาลไบเดน กล่าว ในการอ้างถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า ปักกิ่งกำลังพยายามเพิ่มอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ของพวกเขาผ่านสิ่งที่เรียกว่าการทูตวัคซีน (Vaccine Diplomacy)
เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวต่อว่า ไต้หวันเป็น "พันธมิตรที่สำคัญ" ในประเด็นสาธารณสุขโลก
ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และบอกว่าการบริจาคดังกล่าวแสดงให้ห็นว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างแข็งแกร่งดั่งหินผา "บนพื้นฐานแห่งรากฐานอันแข็งแกร่งในมิตรภาพนี้ ไต้หวันจะเดินหน้าสานสัมพันธ์อันแนบแน่นกับสหรัฐฯ ในทุกขอบเขต" เธอเขียนบนทวิตเตอร์ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (31 ต.ค.)
สหรัฐฯ บริจาควัคซีนให้ไต้หวัน 2.5 ล้านโดสในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นผู้รับระหว่างประเทศดินแดนแรกๆ ที่ได้รับวัคซีนของสหรัฐฯ
ในตอนนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่าจีนพยายามขัดขวางการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของไต้หวัน ด้วยเหตุผลทางการเมือง คำกล่าวหาที่ทางปักกิ่งปฏิเสธ
ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเช็ก สโลวะเกีย โปแลนด์และลิทัวเนีย ต่างบริจาควัคซีนโควิด-19 ให้ไต้หวันเช่นกัน และจากข้อมูลของสื่อมวลชนไต้หวัน พบว่า จนถึงตอนนี้มีประชากรของเกาะฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 70% แต่มีเพียงประมาณ 30% จากจำนวนประชากร 24 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว
ภายใต้แรงกดันให้แบ่งปันอุปทานวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แก่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก สหรัฐฯ บริจาควัคซีนไปแล้วราว 200 ล้านโดสแก่ประเทศต่างๆ มากกว่า 100 แห่ง จากการเปิดเผยของทำเนียบขาวในช่วงต้นเดือนตุลาคม
ไต้หวัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในด้านห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก มีอัตราการฉีดวัคซีนชะลอตัวลงนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2020 ในขณะที่ช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน มาตรการควบคุมโควิด-19 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดในท้องถิ่น ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน
สหรัฐฯ เหมือนกับประเทศส่วนใหญ่ที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน
ไม่นานที่ผ่านมา สหรัฐฯ ต้องพบเห็นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับจีนตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศยกระดับความสัมพันธ์กับเกาะแห่งนี้ ที่ตามกฎหมายของสหรัฐฯ ทางวอชิงตันจำเป็นต้องให้การสนับสนุนไต้หวันในการปกป้องตนเอง
(ที่มา : รอยเตอร์)