หญิงชาวอเมริกันซึ่งก่อคดีฆ่าแม่ยัดศพใส่กระเป๋าเดินทางที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ได้รับอิสรภาพในวันนี้ (29 ต.ค.) หลังรับโทษจำคุกไปได้เพียง 6 ปี
คดีสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 โดย น.ส. ฮีทเธอร์ แมค (Heather Mack) ซึ่งเป็นบุตรสาวผู้ตาย ถูกศาลอินโดนีเซียพิพากษาจำคุก 10 ปีเมื่อปี 2015 ส่วนนาย ทอมมี เชฟเฟอร์ (Tommy Schaefer) แฟนหนุ่มของเธอถูกศาลสั่งจำคุก 18 ปี หลังก่อเหตุฆาตกรรมนาง ชีลา ฟอน ไวส์ แมค (Sheila Von Wiese Mack) มารดาของฝ่ายหญิง ที่โรงแรมหรู “เซนต์ รีจิส” บนเกาะบาหลี
รายงานข่าวระบุว่า เชฟเฟอร์ มีปากเสียงกับแม่ของแฟนอย่างรุนแรง จึงใช้ “อ่างใส่ผลไม้” ทุบตีหญิงชราวัย 62 ปี จนกระทั่งเสียชีวิต จากนั้นเขาและ น.ส.แมค ได้ช่วยกันนำศพแม่ยัดใส่กระเป๋าเดินทางเพื่ออำพรางความผิด และพยายามขนกระเป๋าลงไปขึ้นแท็กซี่เพื่อหลบหนีออกจากโรงแรม ก่อนที่สุดท้ายจะมีคนไปพบศพนาง ชีลา ในสภาพเปลือยครึ่งท่อนซุกอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าว
น.ส.แมค ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ในเวลานั้น ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานร่วมรู้เห็นกับการฆาตกรรมและอำพรางศพ
ล่าสุด ผู้คุมทัณฑสถานหญิงในเรือนจำเกอโรโบกัน (Kerobokan) บนเกาะบาหลี ยืนยันว่า แมค ในวัย 25 ปี ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้วในวันนี้ (29) โดยได้รับอนุญาตพักโทษก่อนกำหนดเนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดี
“ตอนที่เธอได้รับการปล่อยตัวก็มีอาการตื่นเต้น ลังเล และยังคงหวาดกลัวอยู่ แต่พวกเราพยายามให้กำลังใจเธอ” ลิลี เจ้าหน้าที่เรือนจำคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์
แมค ซึ่งสวมแว่นกันแดดถูกพาตัวออกจากเรือนจำไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากที่ไปรอทำข่าว
เธอได้พูดคำว่า “ขอบคุณอินโดนีเซีย” เป็นภาษาท้องถิ่น ก่อนจะขึ้นรถตู้ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อรอการเนรเทศกลับไปยังสหรัฐอเมริกา
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองบาหลีปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีนี้ และไม่ยืนยันว่า แมค จะถูกส่งกลับไปสหรัฐฯ เมื่อไหร่ ขณะที่ลูกสาวของ แมค ซึ่งเวลานี้อายุ 6 ขวบ และอาศัยอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กบนเกาะบาหลี ก็ยังไม่มีคำยืนยันว่าจะได้เดินทางกลับสหรัฐฯ พร้อมมารดาหรือไม่
เชฟเฟอร์ ซึ่งเวลานี้ยังถูกจำคุกอยู่ รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านาง ชีลา จริง แต่อ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว
เขายังอ้างด้วยว่าผู้ตายไม่พอใจที่รู้ว่าลูกสาวตั้งครรภ์ แถมยังพูดจาเหยียดเชื้อชาติตนเองซึ่งเป็นคนผิวสี
ระหว่างเกิดเหตุ แมค ได้เข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แต่ต่อมาก็ออกมาช่วยแฟนหนุ่มยัดศพแม่ลงกระเป๋าเดินทาง
ที่มา: เอเอฟพี