ศาลเกาหลีใต้พิพากษาสั่งปรับ อี แจยอง (Lee Jae-yong) รองประธานกลุ่มซัมซุง เป็นเงิน 70 ล้านวอน หรือประมาณ 1.98 ล้านบาท กรณีใช้สารระงับประสาทโปรโพฟอล (propofol) อย่างผิดกฎหมาย นับเป็นอีกหนึ่งคดีอื้อฉาวที่รุมเร้าทายาทอาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่แดนโสมตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อี ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บสให้เป็นบุคคลร่ำรวยอันดับที่ 238 ของโลก และวงเงินค่าปรับนี้คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.0006% ของมูลค่าทรัพย์สิน 10,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่เขามีอยู่
อี ถูกกล่าวหาว่าแอบใช้สารโปรโพฟอลหลายครั้งที่คลินิกศัลยกรรมตกแต่งแห่งหนึ่งในกรุงโซลเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายปี ซึ่งสารชนิดนี้แม้จะมีใช้ทั่วไปในวงการวิสัญญีแพทย์ แต่บางครั้งก็ถูกนำมาเสพเพื่อการผ่อนคลาย และการเสพสารชนิดนี้ในปริมาณที่มากเกินไปเคยเป็นสาเหตุทำให้ราชาเพลงป๊อปชื่อดังของสหรัฐฯ “ไมเคิล แจ็คสัน” ต้องเสียชีวิตมาแล้ว เมื่อวันที่ 25 มิ.ย ปี 2009
ในเกาหลีใต้ การใช้สารโปรโพฟอลไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเดิมทีอัยการได้เสนอโทษปรับเพียง 50 ล้านวอนตามกระบวนการพิจารณาแบบรวบรัด (summary indictment) ซึ่งใช้กับการกระทำความผิดสถานเบาที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นศาล
อย่างไรก็ดี ศาลแขวงกลางกรุงโซลได้วินิจฉัยคัดค้านความเห็นของอัยการ และสั่งให้มีการไต่สวน
“สารที่ใช้มีปริมาณสูงมาก และลักษณะของความผิดไม่ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อพิจารณาถึงความรับผิดชอบทางสังคมที่จำเลยควรจะต้องมี” ผู้พิพากษา จัง ยังแช ระบุ
เนื่องจาก อี “รับสารภาพว่าได้ใช้สารดังกล่าวจริง และไม่เคยต้องโทษในลักษณะนี้มาก่อน” ศาลจึงพิพากษาให้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 70 ล้านวอน และถูกยึดทรัพย์สินมูลค่า 17 ล้านวอน พร้อมทั้งเตือนให้ผู้บริหารซัมซุงรายนี้ “ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ให้ลูกหลานต้องได้รับความอับอาย”
อี ซึ่งสวมสูทสีเข้มและหน้ากากอนามัยเดินเข้าไปยังห้องพิจารณาคดี โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอทำข่าว
ระหว่างการไต่สวนคดีเมื่อต้นเดือน ต.ค. อี ได้กล่าวขออภัยต่อศาลที่พฤติกรรมส่วนตัวของเขาได้ “สร้างปัญหาและความกังวล” ขึ้น แต่ยังคงยืนยันว่าการฉีดสารโปรโพฟอลนั้น “มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์”
อี แจยอง เพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวภายใต้ทัณฑ์บนเมื่อ 2 เดือนก่อน หลังถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปีครึ่งฐานติดสินบน, ยักยอกทรัพย์ และความผิดอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับคดีอาญาซึ่งทำให้อดีตประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ต้องร่วงจากตำแหน่ง
ปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่คำสั่งปล่อยตัว อี แจยอง ก็คือกระแสเรียกร้องจากประชาคมธุรกิจและการเมืองที่เกรงว่า การที่ อี ถูกจำคุกนานๆ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจในเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญของซัมซุง ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก และนั่นหมายถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ด้วย ทว่าการพักโทษให้กับทายาทซัมซุงก็ไม่วายจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของความยุติธรรมแบบ “2 มาตรฐาน” ที่รัฐบาลยอมอะลุ้มอล่วยให้แก่พวกนักธุรกิจที่ฉ้อโกงหรือหลบเลี่ยงภาษี โดยเห็นแก่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นที่ตั้ง
ที่มา: เอเอฟพี