สหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อใหม่โควิด-19 รอบ 7 วัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากข้อมูลของรัฐบาลที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (23 ต.ค.) หนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะหวนคืนสู่ล็อกดาวน์
มีประชาชนที่มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก 333,465 คนในสหราชอาณาจักร ในช่วง 7 วันหลังสุด เพิ่มขึ้น 15% จากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 กรกฎาคม
ข้อมูลของรัฐบาลเผยด้วยว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 44,985 คนในวันเสาร์ (23 ต.ค.) ลดลงจากระดับ 49,298 คนในวันศุกร์ (22 ต.ค.) ส่วนผู้เสียชีวิตภายใน 28 วัน หลังจากมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกนั้น พบเพิ่มอีก 135 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันล่าสุดนั้นครอบคลุมเฉพาะอังกฤษ ยังไม่นับรวมแคว้นอื่นๆ
จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 12% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และยอดผู้ติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น เวลานี้อยู่ที่ 139,461 ราย สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยุโรป รองจากรัสเซีย
แม้วัคซีนและแนวทางการรักษาทางการแพทย์ที่ดีขึ้นช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างมากหากเทียบกับการแพร่ระบาดระลอกก่อนๆ แต่การแพร่ระบาดระลอกปัจจุบันซ้ำเติมความตึงเครียดแก่สถานพยาบาลต่างๆ ที่แออัดอยู่ก่อนแล้ว และอัตราการเสียชีวิตในปัจจุบันของสหราชอาณาจักรนับว่าสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านยุโรปหลายชาติค่อนข้างมาก
คณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาลแนะนำเมื่อวันศุกร์ (22 ต.ค.) ควรเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ของการกลับมาบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อย่างเช่นทำงานจากบ้าน โดยบอกว่าการดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความจำเป็นของมาตรการที่เข้มข้นกว่านี้ในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ยังยืนยันคำเดิม ไม่คาดหมายว่าประเทศแห่งนี้จะคืนสู่มาตรการล็อกดาวน์ "เราไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่บ่งชี้ว่าเราอยู่บนเส้นทางนั้น" เขากล่าวในวันศุกร์ (22 ต.ค.)
(ที่มา : รอยเตอร์)
