ใกล้ปะทุ! รัสเซียโมโห จนท.โดนตะเพิดข้อหาเป็นสายลับ จัดหนักระงับกิจกรรมทางการทูตกับนาโต

รัสเซียเมื่อวันจันทร์ (18 ต.ค.) ประกาศว่าจะระงับกิจกรรมต่างๆ ของคณะผู้แทนทางการทูตประจำนาโต หลังจากพันธมิตรทหารตะวันตกแห่งนี้ขับไล่เจ้าหน้าที่รัสเซีย 8 คนออกมา หลังกล่าวหาพวกเขาเป็นสายลับ

นอกจากนี้แล้ว เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ยังเผยว่าเจ้าหน้าที่ประจำคณะผู้แทนทางทหารของนาโตในกรุงมอสโก ก็จะถูกยกเลิกการรับรองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และสำนักงานประชาสัมพันธ์ของนาโตในเมืองหลวงของรัสเซียจะถูกปิด

"หากสมาชิกนาโตมีประเด็นเร่งด่วนใดๆ พวกเขาสามารถติดต่อเอกอัครราชทูตของเราในเบลเยียม สำหรับสอบถามประเด็นเหล่านั้น" ลาฟรอฟกล่าวระหว่างแถลงข่าว

นาโตเปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ว่าได้ขับไล่สมาชิก 8 คนของคณะผู้แทนรัสเซียประจำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ โดยอ้างว่าคนเหล่านั้นเป็น "เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองลับของรัสเซีย"

มอสโกกล่าวในตอนนั้น ว่า การขับไล่ดังกล่าวบ่อนทำลายความหวังในการหวนคืนสู่ความสัมพันธ์อันปกติกับพันธมิตรนาโตที่นำโดยสหรัฐฯ

"นาโตไม่ได้สนใจการทูตแบบเสมอภาคและการทำงานร่วมกัน" ลาฟรอฟกล่าวในวันจันทร์ (18 ต.ค.) ระหว่างแถลงยุติกิจกรรมของคณะผู้แทนรัสเซีย "ในกรณีเช่นนั้น เราไม่เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องเสแสร้งต่อไป ทำเป็นว่าการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้มีความเป็นไปได้"

ในส่วนของนาโต ระบุในวันจันทร์ (18 ต.ค.) ว่าพวกเขาใส่ใจกับการตัดสินใจของรัสเซีย "เราเสียใจต่อก้าวย่างนี้ นโยบายต่างๆ ของนาโตที่มีต่อรัสเซียยังคงไม่เปลี่ยนแปลง" โฆษกของนาโตระบุ "เราได้เสริมความเข้มแข็งด้านป้องปรามและป้องกันตนเอง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวก้าวร้าวของรัสเซีย แต่ในขณะเดียวกันเรายังคงเปิดกว้างต่อแนวทางด้านการทูต ในนั้นผ่านสภานาโต-รัสเซีย"

ข้อพิพาทนี้ถือเเป็นความเสื่อมทรามล่าสุดในความสัมพันธ์ระหว่างตะวันออกกับตะวันตกที่ตกต่ำสุดนับตั้งแต่ยุคหลังสงครามเย็นอยู่ก่อนแล้ว

ไฮโก มาส รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีกล่าวว่า ดูเหมือนรัสเซียไม่มีความตั้งใจที่จะเจรจากับตะวันตกอีกต่อไป "มันยิ่งกว่าคำว่าเสียใจ มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ในมอสโก มันจะทำลายความสัมพันธ์อย่างร้ายแรง"

รัสเซียเคยกล่าวหานาโตเคลื่อนไหวยั่วยุใกล้ชายแดนของพวกเขา และจัดการซ้อมรบใหญ่ของตนเองในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ส่วนพันธมิตรนาโตบอกว่าพวกเขามีความตั้งใจยกระดับความมั่นคงแก่รัฐสมาชิกทั้งหลายที่อยู่ใกล้กับรัสเซีย หลังจากมอสโกผนวกแหลมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และสนับสนุนพวกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน

(ที่มา : รอยเตอร์)