รัสเซียรายงานพบผูู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันมากถึง 852 คนในวันอังคาร (28 ก.ย.) ถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศ ส่งผลให้ยอดตายสะสมแตะระดับกว่า 205,500 ราย อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก
สถิติเดิมพบผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 4 วันก่อน หรือวันที่ 24 กันยายน โดยวันนั้นมีผู้เสียชีวิต 828 ราย
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินยอมรับว่าภูมิภาคต่างๆ ของประเทศกำลังพบเห็นเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มสูงขึ้น ส่วน แอนนา โปปาวา หน้าสำนักงานกำกับดูแลสวัสดิภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค (Rospotrebnadzor) ของรัสเซีย บอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยากที่จะสรุปว่าเมื่อไหร่เคสผู้ติดเชื้อจะชะลอตัว ในขณะที่เวลานี้มีชาวรัสเซียไม่ถึง 50 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว
"ขอบอกว่า เรามีประชากรวัยผู้ใหญ่ 110-115 ล้านคน ในนั้นราว 47 ล้านคนฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว มันไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่ของรัสเซีย ดังนั้น ในวันนี้เราจึงไม่มีเหตุผลใดที่สามารถพูดได้ว่าการแพร่ระบาดจะหยุดลง" ปาโปวา กล่าว
รัสเซียเป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่เลวร้ายที่สุด รายงานมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของโลก ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อปกินส์ และปัจจุบันพวกเขากำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดระลอก 3
จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของรัสเซียอยู่ที่ 7,464,708 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นอยู่ที่ 205,531 ราย
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก สืบเนื่องจากแนวทางการจำแนกผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัสเซีย
แม้เป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งก็คือ "สปุตนิก วี" ในเดือนสิงหาคม 2020 แต่รัสเซียยังคงล้าหลังชาติอื่นๆ ของโลก ในแง่ของจำนวนประชากรที่เข้าฉีดวัคซีน
รัสเซียประสบปัญหาอัตราการเข้าฉีดวัคซีนในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง อันมีต้นตอจากประชากรจำนวนมากยังคงลังเลเข้ารับวัคซีน โดยจนถึงตอนนี้มีประชาชนแค่ 1 ใน 4 ที่ฉีดวัคซีน ผิดกับสหรัฐฯ ที่มีประชาชนเข้ารับวัคซีนแล้วเกินครึ่ง ขณะที่สหราชอาณาจักรตัวเลขผู้เข้าฉีดวัคซีนทะลุ 2 ใน 3 แล้ว
ในความพยายามกระตุ้นจำนวนผู้เข้ารับวัคซีน เจ้าหน้าที่ในกรุงมอสโกออกคำสั่งในเดือนมิถุนายน ให้ภาคอุตสาหกรรมบริการต่างๆ ไล่ตั้งแต่รับจัดเลี้ยง ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการขนส่ง ฉีดวัคซีนพนักงานอย่างน้อยๆ 1 เข็ม ครอบคลุมอย่างน้อย 60% ของพนักงานทั้งหมดภายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดย เปสคอฟ บอกในตอนนั้นว่าแม้ไม่บังคับฉีดวัคซีน แต่พนักงานเหล่านั้นจะเสี่ยงตกงานหากไม่ยอมปฏิบัติตาม
เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา วังเครมลินเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังอยู่ระหว่างกักโรคตนเอง หลังคนใกล้ชิดของเขาหลายคนมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก แม้ ปูติน มีผลตรวจเป็นลบและ "แข็งแรงดี" ก็ตาม
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)