ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ถูกมือดีเปาไข่ใส่ระหว่างกิจกรรมอาหารหนึ่งในเมืองลียงเมื่อวันจันทร์(27ก.ค.) เบื้องต้นยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่มันเกิดขึ้นราว 3 เดือนเศษ หลังจากผู้นำรายนี้เพิ่งถูกผู้ประท้วงตบหน้าขณะกำลังพบปะพูดคุยกับประชาชน
ฟลอรองซ์ ลาโก ผู้สื่อขาวของ Lyon Mag สื่อมวลชนฝรั่งเศส เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น ว่าไข่พุ่งมาโดนบริเวณไหล่ของมาครง "กระเด็นตกลงพื้นต่อหน้าผม"
หนังสือพิมพ์ Lyon Mag ได้แชร์วิดีโอที่ของเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่นิทรรศการอาหารและงานบริการ SIRHA บนบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการ โดยในคลิปเป็นภาพไข่พุ่งมาโดยไหล่ของมาครง ก่อนกล้องจะจับภาพไปยังพวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังจับกุมตัวชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน
แรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่เป็นที่ชัดเจน ลาโกบอกว่าเธอเห็นหนุ่มวัยรุ่นเป็นคนปาไข่ แต่ไม่ได้ยินเขาตะโกนอะไรออกมา พร้อมเผยว่าพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรุดพาตัวเขาออกไปจากสถานที่ในทันที
โฆษกของทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งอยู่กับมาครงด้วยในตอนเกิดเหตุ เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า เหตุการณ์นี้ถูกพูดขยายความกันไปเลยเถิด "ท่านประธานาธิบดีเดินไปทั่วนานกว่า 2 ชั่วโมง เขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและทุกอย่างเป็นไปอย่างสงบ"
"ไม่มีอะไรที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะว่ามันไม่ได้ก่อความวุ่นวายต่อการเดินสำรวจนิทรรศการโดยรอบของเขา" โฆษกระบุ "ผมอยู่ข้างๆประธานาธิบดี ผมบอกกับพวกคุณได้ว่ามันไม่มีเรื่องราวอะไร"
ก่อนหน้านี้ มาครง เคยถูกเล่นงานด้วยการปาไข่ใส่มาแล้วในปี 2017 ครั้งที่เขายังเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี และในเหตุการณ์ครั้งนี้ไข่แตกบนศีรษะของเขา
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มาครงเพิ่งถูกตบหน้าโดยชายคนหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน ระหว่างที่เขากำลังพูดคุยกับประชาชนระหว่างเดินทางเยือนพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีรุดเข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็ว ทำการจับกุมชายคนดังกล่าวและพาตัว มาครง ออกห่างจากแนวรั้วกั้น
ชายวัย 28 ปีคนนี้บอกกับศาลว่า เขาทำไปเพราะเห็นใจกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และศาลตัดสินจำคุกเขา 4 ปี
ด้วยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี มาครงกำลังเดินหน้าออกงานสาธารณะหลายงาน หลังจากในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พรรคการเมืองของเขาทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในศึกเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนเมษายนปีหน้า อย่างไรก็ตามด้วยที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ค่อนข้างน้อย พวกผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองจึงมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะสรุป
(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น)