พลเมืองอเมริการายหนึ่งที่ทำงานเป็นล่ามให้กองทัพสหรัฐฯ กว่าสิบปี ให้สัมภาษณ์ทางไกลกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า เวลานี้เธอตกค้างอยู่ในอัฟกานิสถาน เพราะไม่ได้รับแจ้งว่าเที่ยวบินอพยพเที่ยวสุดท้ายกำลังจะออกเดินทางเมื่อวันจันทร์ (30 ส.ค.) ที่ผ่านมา
"ฉันเพิ่งทราบว่าทหารสหรัฐฯ คนสุดท้ายเพิ่งเดินทางออกไป ฉันอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ" ผู้หญิงรายดังกล่าวซึ่งใช้นามแฝงเพื่อความปลอดภัย ว่า "ซารา" ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นในวันจันทร์ (30 ส.ค.) "ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าไม่มีใครบอกฉันว่ามันเป็นเที่ยวบินสุดท้ายแล้ว"
ซารา ระบุว่า เวลานี้เธออยู่ในอาการหวาดผวามากกว่าครั้งไหนๆ ที่เธอเคยช่วยกองทัพสหรัฐฯ ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา "พวกเขาทิ้งเราไว้กับใคร? ไว้กับคนที่ฆ่าเราตลอดเวลา?"
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการ “Cuomo Prime Time” ซาราเล่าว่า สิ่งที่ทำให้เธอหวาดผวามากที่สุดก็คือ ข่าวที่ว่าพวกนักรบตอลิบานเคาะประตูบ้านประชาชนทีละหลัง หาทางแก้แค้นพวกที่เคยช่วยฝายตรงข้าม "มันก็แค่ใจสลาย แต่ฉันยังคงหวังว่าเราจะออกไปได้"
ผู้หญิงรายนี้เผยว่า เธอพยายามออกไปขึ้นเครื่องบินอพยพที่สนามบินคาบูลซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเล่าว่าได้รับคำสั่งให้ถือร่มและตะโกนรหัสลับเพื่อผ่านจุดตรวจ "แต่ไม่ได้ผล" ท่ามกลางผู้คนที่พยายามหลบหนีหลายพันคน
"ถ้าอเมริกาไม่ช่วยฉันตอนที่พวกเขายังอยู่ในพื้นที่ แล้วตอนนี้พวกเขาจะช่วยฉันยังไง ในเมื่อไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว" เธอตั้งคำถาม "ตอนนี้มีใครกำลังมาช่วยฉันบ้าง?"
ก่อนหน้านี้ เธอเคยให้สัมภาษณ์กับคริส คูโอโม พิธีกรของซีเอ็นเอ็น ว่าเธอให้ที่หลบภัยคนอื่นๆ อีก 37 คนในบ้านของเธอ ในนั้นรวมถึงเด็ก 19 คน และ 2 ในนั้นยังพิการอีกด้วย "ฉันไม่สามารถทิ้งพวกเขาไว้ได้"
ปัจจุบันพวกทหารชาติตะวันตกถอนกำลังออกไปแล้ว และเธอรู้สึกว่าตอนนี้ผู้คนที่เธอกำลังพยายามปกป้องกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง "ตอนนี้พวกเขาตกเป็นเป้าหมายมากกว่าแต่ก่อนอีก เพราะว่าพวกเขาพักอยู่ในบ้านของฉันและฉันเป็นคนอเมริกัน" เธอบอกกับพิธีกรของซีเอ็นเอ็น "อะไรจะเกิดขึ้นกับเราต่อจากนี้ ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย"
จอห์น เคอร์บี โฆษกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในวันอังคาร (31 ส.ค.) ว่าชาวอเมริกาหลายร้อยคนยังคงอยู่ในอัฟกานิสถาน หลังเครื่องบิน C-17 เที่ยวสุดท้ายบินออกจากสนามบินคาบูล ตอน 23.59 น.ตามเวลาท้องถิ่น ไม่นานก่อนเส้นตายถอนทหารวันที่ 31 สิงหาคม
"เราใจสลายที่ไม่สามารถพาทุกคนออกมา แต่พวกเขายังคงเป็นพันธสัญญาของเรา พวกเขายังคงเป็นพันธสัญญาของรัฐบาลชุดนี้และสหรัฐฯ เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ สานต่อความพยายามพาพวกเขาออกนอกประเทศนั้นและออกมาอย่างปลอดภัย" เคอร์บียืนยัน
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)
