เอพี - พลเรือนอัฟกันตายอีก 7 คนในเหตุชุลมุนรอบสนามบินคาบูล ตอกย้ำอันตรายสำหรับผู้ที่พยายามหนีอำนาจของตอลิบานออกนอกประเทศ ขณะเดียวกัน กองทัพอเมริกันต้องหาวิธีใหม่ในการอพยพ เพื่อรับมือความเป็นไปได้ในการโจมตีของกลุ่มไอเอส
ในวันอาทิตย์ (22 ส.ค.) กองทัพอังกฤษยอมรับว่า มีพลเรือนอัฟกานิสถาน 7 คนเสียชีวิตท่ามกลางฝูงชนที่เบียดเสียดและยิ่งแตกตื่นเมื่อนักรบตอลิบานยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อไล่ประชาชนที่พยายามเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลเพื่อหนีออกจากอัฟกานิสถาน
กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงว่า สถานการณ์ภาคพื้นดินยังมีความท้าทายสูง อย่างไรก็ตาม อังกฤษพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจัดการสถานการณ์ให้มีความปลอดภัยสูงสุด
ข่าวนี้เกิดขึ้นขณะที่อเมริกากังวลมากขึ้นกับความเสี่ยงจากการโจมตีของเครือข่ายสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอัฟกานิสถาน ซึ่งทำให้เครื่องบินของกองทัพอเมริกันต้องลงจอดอย่างรวดเร็วแบบยุทธวิธีในสนามบินที่รายล้อมด้วยนักรบตอลิบาน หรือบินขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเชิดหัวขึ้นเพื่อหลบเลี่ยงขีปนาวุธที่ค้นหาเป้าหมายด้วยความร้อน
การเปลี่ยนแปลงนี้มีขึ้นขณะที่สถานทูตอเมริกันในอัฟกานิสถานออกคำเตือนความปลอดภัยใหม่เมื่อวันเสาร์ (21 ส.ค.) ให้พลเมืองอเมริกันงดเดินทางไปยังสนามบินคาบูลหากไม่ได้รับคำแนะนำเป็นกรณีไปจากตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับภัยคุกคามจากไอเอส นอกจากบอกว่า มีความท้าทายสูง แต่ระบุยังไม่มีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายนี้เปิดการโจมตีแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่อเมริกันแจงว่า พลเมืองอเมริกันกลุ่มเล็กๆ และอาจรวมถึงพลเมืองชาติอื่นจะได้รับคำแนะนำเฉพาะเจาะจงว่าควรทำอย่างไร เช่น การไปยังจุดนัดหมายที่จะมีทหารอเมริกันรอรับ
ทั้งนี้ อเมริกาเหลือเวลาน้อยลงเรื่อยๆ ก่อนถึงเส้นตายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศให้ทหารอเมริกันส่วนใหญ่ถอนออกจากอัฟกานิสถานภายในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้กล่าวว่า จะมีการขยายเส้นตาย นอกจากให้สัญญาว่า จะอพยพไม่เฉพาะคนอเมริกันทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวอัฟกันหลายหมื่นคนที่ช่วยอเมริกาทำสงครามมาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2001
ไอเอสที่ประกาศเจตนารมณ์มานานแล้วว่า จะโจมตีอเมริกาและผลประโยชน์ของอเมริกานอกประเทศ เคลื่อนไหวอยู่ในอัฟกานิสถานมานานหลายปี และโจมตีรุนแรงหลายครั้ง ส่วนใหญ่พุ่งเป้าชนกลุ่มน้อยชาวชีอะต์ และแม้ช่วงหลายปีมานี้ไอเอสถูกอเมริกาโจมตีทางอากาศหลายระลอก รวมทั้งยังถูกตอลิบานโจมตี แต่ยังมีเครือข่ายย่อยดำเนินการอยู่ในอัฟกานิสถาน และอเมริกากังวลว่า หลังจากตอลิบานปกครองประเทศนี้ ไอเอสจะยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆ ยังคงเดินหน้าเที่ยวบินอพยพต่อเนื่อง แม้บางเที่ยวบินมีผู้โดยสารโหรงเหรงเนื่องจากความวุ่นวายในสนามบินคาบูลก็ตาม
พลตรีแฮงก์ เทย์เลอร์ รองผู้อำนวยการเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ สำหรับปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า นับจากวันที่ 15 อเมริกาอพยพประชาชนจากสนามบินคาบูลราว 17,000 คน ซึ่ง 2,500 คนเป็นคนอเมริกัน จากทั้งหมด 15,000 คนที่คาดว่า อยู่ในอัฟกานิสถานขณะนี้
เทย์เลอร์ และจอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน กล่าวว่า แม้สนามบินคาบูลยังเปิดอยู่ แต่ภาพรวมของภัยคุกคามเปลี่ยนแปลงทุกชั่วโมง และอเมริกาต้องต่อสู้ทั้งเรื่องของเวลาและสถานที่
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา กองบัญชาการการขนส่งของอเมริกาได้ออกคำเตือนไปยังสายการบินพาณิชย์ในประเทศเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการบังคับใช้โครงการกองบินสำรองพลเรือนโดยความสมัครใจ ซึ่งหมายถึงการระดมสายการบินพาณิชย์มาสมทบกับเครื่องบินทหารระหว่างวิกฤตที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องประเทศ ทั้งนี้ เพื่อรับช่วงผู้อพยพต่อจากเครื่องบินทหารที่นำคนเหล่านั้นออกจากอัฟกานิสถาน
ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ขณะนี้มี 13 ประเทศที่ตกลงรับชาวอัฟกันอย่างน้อยชั่วคราว และอีก 12 ประเทศยอมเป็นจุดเปลี่ยนเครื่องสำหรับผู้อพยพที่รวมถึงพลเมืองอเมริกัน